ศาลอาญาสอบคำให้การ ผู้ต้องหาดัตช์และภรรยา คดีถูกอัยการ-ปปง.ผสานกำลังจับกุมฐานฟอกเงินค้ากัญชาข้ามชาติ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท จำเลยให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 22 ธ.ค.นี้
ที่ห้องเวรชี้ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (17 ต.ค.) ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อ.3423/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายโจฮันเนส เพทรุส มาเรีย ฟาน ลาร์โฮเวิน (Mr. Johannes Petrus Maria van Laarhoven) อายุ 54 ปี สัญชาติเนเธอร์แลนด์ และนางมิ่งขวัญ ฟาน ลาร์โฮเวิน หรือแก่นอินทร์ อายุ 32 ปี ภรรยาชาวไทย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3, 5, 6, 7 และ 60
อัยการยื่นฟ้องจำเลยทั้งสอง ระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2551 - 2 มิ.ย. 2557 จำเลยทั้งสองกับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันฟอกเงินโดยสั่งการให้บริษัท เดฟตี้ โฮลดิ้ง จำกัด (Deefety Holdings LTD.) ที่จดทะเบียนในประเทศไซปรัส โอนเงิน 500,000 ยูโร ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนเลียบชายหาดจอมเทียนพัทยา ของจำเลยที่ 1 และตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 2552 จำเลยทั้งสองกับพวก ยังร่วมกันโอนเงิน ผ่านระบบสื่อสารด้านการเงินระหว่างประเทศในรูปแบบรหัสธนาคาร หรือ SWIFT จากดอยช์แบงก์ ประเทศเยอรมนี ที่มีธนาคารเอ็ดมอนด์ เดอ รอธไชลด์ ยุโรป ลักเซมเบิร์ก และธนาคารจูเลียส แบร์ ประเทศสิงคโปร์ เป็นสถาบันผู้สั่งโอนเงินหลายครั้งมูลค่าหลายล้านยูโรเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาพัทยาใต้ ของจำเลยที่ 1 และหลังจากวันที่ 19 มิ.ย. 2552 จำเลยทั้งสองกับพวก ยังร่วมกันนำเงินซื้อที่ดินหลายแปลง พร้อมสิ่งปลูกสร้างในจังหวัดชลบุรี โดยมีบริษัทที่จำเลยกับพวกร่วมกันจดทะเบียนจัดตั้งเป็นผู้ทำนิติกรรมและถือครองทรัพย์สินแทน รวมทั้งเรือยอชต์ 2 ลำ, รถยนต์ยี่ห้อพอร์ช และรถยนต์นั่งขนาด 7 คน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่จำเลยร่วมกันกระทำผิด กว่า 100 ล้านบาท โดยเจ้าพนักงานจับกุมตัวจำเลยทั้งสองได้เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2557 ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ สำหรับความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ได้แยกสำนวนการสอบสวนออกไป เนื่องจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ มีความประสงค์จะขอดำเนินคดีจำเลยกับพวกต่อในประเทศเนเธอร์แลนด์
ขณะที่ในวันนี้ศาลได้เบิกตัวนายโจฮันเนส และนางมิ่งขวัญ จำเลยที่ 1-2 มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อสอบคำให้การ ซึ่งศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้ฟังแล้ว จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ เวลา 13.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่จำเลยทั้งสองได้มอบอำนาจให้นายสุประวัติ ใจสมุทร ทนายความ ฟ้องคดีอาญาต่อพนักงานอัยการ สำนักงานการสอบสวน และเลขาธิการ ปปง.ที่รับผิดชอบสำนวนและเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จำนวน 10 ราย เป็นจำเลยต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ในคดีหมายเลขดำ อ.3317/2557 ฐานร่วมปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายบุคคลอื่น และเป็นพนักงานสอบสวน กระทำการในตำแหน่งมิชอบเพื่อกลั่นแกล้งให้โจทก์ต้องรับโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 นั้นล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ศาลอาญาได้พิจารณาแล้วมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องไปแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องไต่สวนมูลฟ้อง
ด้านนายสุประวัติ ทนายความกล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดคำสั่งศาล แต่เข้าใจว่าอาจเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ดังนั้นก็จะหารือกับคู่ความต่อไปว่าประสงค์จะอุทธรณ์คดีอีกหรือไม่ ส่วนเรื่องการขอประกันตัวนั้นจะพิจารณาดำเนินการต่อไปในภายหลัง