xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มพม่าร้องแบงก์เลินเล่อ ถูกคนร้ายปลอมเอกสารเปิดบัญชีกดเงินเกลี้ยง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 ปธ.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พา นายอายู ซอว์เทย์ ผู้เสียหายร้องทุกข์
ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหนุ่มพม่าร้องกองปราบฯ ขอความเป็นธรรมหลังธนาคารไม่รับผิดชอบกรณีถูกเพื่อนร่วมชาติลักบัตรเอทีเอ็มและแจ้งบัตรหายก่อนนำเอกสารปลอมไปเปิดบัญชีใหม่ และใช้กดเงินจนเกลี้ยงบัญชี



วันนี้ (15 ต.ค.) ที่กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พานายอายู ซอว์เทย์ อายุ 30 ปี สัญชาติพม่า เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนประจำ บก.ป. กรณีที่นายอายู ถูกเพื่อนชาวพม่า คือ นายเมา เมา อายุ 25 ปี ลักทรัพย์เป็นเอกสารหนังสือเดินทางของนายอายุ ไปใช้เปิดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มแห่งหนึ่ง ก่อนไปกดเงินสด สร้างความเสียหายเป็นจำนวน 76,000 บาท แต่ภายหลังมีการแจ้งความดำเนินคดี และศาลมีคำพิพากษาแล้วจึงต้องการเรียกร้องความรับผิดชอบจากธนาคารดังกล่าวแต่กลับถูกปฏิเสธ

นายอัจฉริยะกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา นายอายูซึ่งมีอาชีพมาร์กเกอร์อยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์แห่งหนึ่งพบว่าทรัพย์สินต่างๆ ได้แก่ หนังสือเดินทาง เงินสด 1,000 บาท และบัญชีเงินฝากธนาคาร สูญหายไปจากบ้านพักเลขที่ 34/3 หมู่ 1 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ต่อมาจึงทราบว่าผู้ที่ลักทรัพย์สินดังกล่าวไป คือ นายเมา เมา โดยมีการนำเอกสารหนังสือเดินทางไปเปิดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง และถูกนำไปใช้กดเงินสดออกมา โดยนายเมา เมา ใช้วิธีกดออกมาตามวงเงินสูงสุด แล้วก็แจ้งว่าบัตรหายขอทำบัตรเอทีเอ็มใบใหม่ก่อนจะนำไปกดเงินอีกรวมเป็นเงิน 76,000 บาท

นายอัจฉริยะกล่าวต่อว่า หลังจากทราบเรื่องนายอายูได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายเมา เมา กระทั่งตำรวจ สน.หลักสอง สามารถจับกุมตัวนายเมา เมา ไว้ได้ และมีการส่งฟ้องคดีจนศาลมีคำพิพากษาลงโทษผู้ต้องหาในความผิดฐานลักทรัพย์ผู้อื่นในเคหสถาน เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จากนั้นได้เข้าร้องเรียนกรณีที่เกิดขึ้นกับทางธนาคารที่เปิดบัญชีให้กับนายเมา เมา ทั้งที่เอกสารที่ถูกใช้เป็นของนายอายู เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบในยอดเงินที่ถูกเบิกถอนออกไป แต่ทางธนาคารดังกล่าวยังคงปฏิเสธความรับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าว

นายอัจฉริยะกล่าวอีกว่า อยากให้กรณีนี้เป็นตัวอย่าง เพราะไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ธนาคารกระทำการอย่างเลินเล่อ หรือขาดความรอบคอบ เนื่องจากเอกสารที่นำไปใช้เปิดบัญชีธนาคารแบบมีบัตรเอทีเอ็มนั้นเป็นคนละคนกัน เหตุใดจึงอนุญาตให้ทำได้ และถูกนำไปใช้กดเงินจนเกิดความเสียหาย ไม่เช่นนั้นต่อไปหากผู้ใดถูกขโมยเอกสารไปใช้กระทำการลักษณะนี้ก็จะเกิดความเสียหายขึ้นได้อีก



กำลังโหลดความคิดเห็น