สาวใหญ่เมืองลพบุรีเครียด เผาตัวเองหน้าทำเนียบ หลังบุกร้องเรื่องกู้เงินใช้โฉนดค้ำประกัน ต่อมาตกลงประนอมหนี้ 1.5 ล้าน แต่เชื่อถูกโกง ก่อนราดน้ำมันถามจนท. “ช่วยฉันไม่ได้หรือไง” แพทย์รักษาอาการแล้วพบช่วงบนถูกไฟไหม้ 50% รวมทั้งบริเวณกล่องเสียงทำให้ยังพูดไม่ได้ ต้องนอนดูอาการในห้องไอซียู "ปนัดดา"เผยจังหวัดช่วยทุกทางแล้ว คาดชำระไม่ไหว รายงาน"ประยุทธ์"หาแนวทางช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการปัญหาปล่อยกู้ไม่ทำสัญญา
เมื่อเวลา 9.00 น. วันนี้ (15ต.ค.) ร.ต.ท.กิ่งเพชร เสธติยะ พนังงานสอบสวบสน.ดุสิต รับแจ้งเหตุมีหญิงจุดไฟเผาตนเอง ภายในศูนย์บริการประชาชน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม หน่วยแพทย์กู้ชีพวชิรพยาบาล ที่เกิดเหตุพบเพียงรอยไหม้ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาลไปแล้ว ทราบชื่อภายหลัง คือ นางสังเวียน รักษาเพ็ชร์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/4 หมู่ 2 ต.วังจั่น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เบื้องต้นผู้บาดเจ็บยังให้การไม่ได้ เนื่องจากมีแผลไฟไหม้กว่าครึ่งหนึ่งของร่างกาย
รสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางสังเวียนมายื่นหนังสือหลายครั้งเพื่อให้ช่วยประนอมหนี้อีกครั้ง หลังจากเคยประน้อมหนี้มาแล้ว 1 ครั้ง แต่นางสังเวียนยังไม่พอใจ เนื่องจากนางสังเวียนไปกู้เงินจากนางธิดารัตน์ เทพอารักษ์ แล้วนำโฉนดที่ดินของตนเองไปค้ำประกัน สุดท้ายมีการเจรจาประนอมหนี้เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท แต่นางสังเวียนเชื่อว่าถูกโกง จึงมาร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชนอีก ก่อนจะเข้าพบนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าศูนย์บริการประชาชน ซึ่งได้รับเรื่องไว้
จากนั้นนายสุขสวัสดิ์ได้โทรศัพท์ประสานไปยังปลัดอำเภอโคกสำโรง เพื่อสอบถามข้อมูลและหาทางช่วยเหลือ แต่ระหว่างนั้นนางสังเวียนได้พูดขึ้นว่า "ช่วยฉันไม่ได้หรือไง" พร้อมกับหยิบขวดน้ำมันที่อยู่ในกระเป๋าถือมาราดตนเอง พร้อมใช้ไฟแช็กมาจุดไฟเผา ประชาชนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ได้ช่วยกันดับไฟไว้ได้ และนำส่งโรงพยาบาล
ต่อมา เวลา 12.00 น. ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล นพ.พลเลิศ พันธุ์ธนากุล รองคณบดีฝ่ายบริหาร วชิรพยาบาล แถลงถึงอาการล่าสุดของนางสังเวียนว่า นางสังเวียนเข้ารักษาตัวเมื่อเวลา 09.20 น. มีอาการไฟไหม้ตามร่างกาย โดพบว่ามีแผลไฟไหม้ 50% ของร่างกายช่วบน ซึ่งบริเวณกล่องเสียงก็มีแผลไฟไหม้ ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถพูดได้ แม้จะรู้สึกตัวและมีสติครบถ้วน นอกจากนี้ร่างกายยังมีแผลบวมอาจเกิดภาวะขาดน้ำ เบื้องต้นแพยท์ได้ให้สารทดแทนน้ำเพื่อป้องกันการช็อก หลังจากให้การรักษาในห้องผู้ป่วยกว่า 1 ชั่วโมง ขณะนี้ได้ย้ายเข้าดูอาการที่ห้องไอซียูแล้ว คาดว่าต้องใช้เวลารักษานานหลายสัปดาห์จึงจะหายเป็นปกติ ล่าสุดสามีของผู้ป่วยทราบเรื่อง และได้โทรศัพท์มาสอบถามอาการแล้ว แต่ผู้ป่วยยังไม่สามารถพูดคุยด้วยได้
เวลา 12.30 น. ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาเยี่ยมนางสังเวียน และให้สัมภาษณ์ว่า จากการประสานไปทางจังหวัดลพบุรี ทราบว่านางสังเวียนเข้าพบหน่วยงานราชการหลายครั้ง ซึ่งนายอำเภอเองก็ไม่อยากเชื่อว่า นางสังเวียนจะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้จัดประชุมเพื่อหาทางช่วยเหลือด้วยการประน้อมหนีของนางสังเวียน และได้มีการตกลงประน้อมหนี้จนเหลือเป็นเงินที่ต้องชำระ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งก่อนหน้าต้องชำระมากกว่านี้
ครั้งนั้นหลังจบการประชุมนางสังเวียนก็พอใจ แต่คาดว่าต่อมาอาจจะชำระไม่ไหว จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยทราบว่าขณะก่อเหตุ มีประชาชน และคนขับรถแท็กซี่ได้ช่วยกันดับไฟก่อนจะนำตัวนางสังเวียนส่งโรพงยาบาล ซึ่งต้องฝากขอบคุณมาในที่นี่ด้วยที่ช่วยเหลือกัน ส่วนอาการล่าสุดยังบอกไม่ได้ว่าปลอดภัยหรือไม่ แต่ทางโรงพยาบาลสัญญาว่าจะดูแลให้ดีที่สุด ส่วนภาครัฐเองก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งจะเสนอรายงานเบื้องต้นให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบก่อนจะหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
"อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการปล่อยกู้จำนวนมากที่ไม่มีการทำสัญญากู้ยืมใดๆ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นภายหลัง จึงต้องเร่งจัดการปัญหานี้ต่อไป"
ต่อมา เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณพักตร์ รรท.ผบก.น.1 เข้าเยี่ยมนางสังเวียน และกล่าวว่า ได้ติดต่อน้องสาวของนางสังเวียนที่จ.ลพบุรี ซึ่งจะเดินทางมาเยี่ยมวันนี้ สำหรับพื้นที่เกิดเหตุเป็นร้านอาหาร ชั้นล่างของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ชั่วคราว ซึ่งนางสังเวียนตั้งใจทำร้ายตัวเองด้วยการใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผา ไม่ได้ตั้งใจจะทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ดังนั้นตอนนี้เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนางสังเวียนมากกว่า
"ก่อนเกิดเหตุนางสังเวียนเคยกู้หนี้นอกระบบโดยไม่ทำสัญญา นำที่ดินไปค้ำประกันไว้ และเคยร้องไปทางศูนย์ดำรงค์ธรรม จากนั้นได้มีการไกล่เกลี่ยหนี้ และทำสัญญาขึ้น แต่นางสังเวียนไม่ได้ชำระหนี้ตามกำหนด ทำให้ฝ่ายเจ้าหนี้ส่งทนายความมาติดตาม นางสังเวียนจึงไม่สบายใจ และเดินทางมายื่นหนังสือ และจุดไฟเผาตัวอง"
พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ กล่าวว่า บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลดูแลอยู่ แต่ด้านนอกรั้ว มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเป็นผู้ดูแล และจากการตรวจสอบกระเป๋าขอนางสังเวียน พบอาวุธมีดด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะเพิ่มมาตรการตรวจค้นอาวุธให้เข้มงวดมากขึ้น