ชุดสืบสวนบางบอนจับหนุ่มพม่าใช้อาวุธมีดแทงเพื่อนลูกจ้างชาวกะเหรี่ยง เสียชีวิต หลังถูกเหยียดยามเรื่องเชื้อชาติ และทำลายข้าวของ จึงเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธกระหน่ำแทงจนเสียชีวิต แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ สน.บางบอน พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิษณุ พรานพนัส ผกก.สน.บางบอน พ.ต.ท.ทองอยู่ นาคะสนธ์ รอง ผกก.สส.สน.บางบอน และ พ.ต.ท.สนชัย พูนผล สว.สส.สน.บางบอน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายลิน เมียง วิน อายุ 32 ปี สัญชาติพม่า ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ธนบุรี ที่ จ.708/2557 ลงวันที่ 13 ต.ค. 57 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมของกลางอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 6 นิ้ว 1 เล่ม โดยจับกุมตัวได้ที่กลางซอยเพชรเกษม 48 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม.
พล.ต.ต.ภัคพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา นายลิน ซึ่งเป็นคนงานของร้านค้าของเก่า ย่านถนนบางบอน 5 ได้ใช้อาวุธมีดของกลางก่อเหตุกระหน่ำแทงเพื่อนคนงานชื่อ นายซัน โช เมย์ อายุ 35 ปี ชาวกะเหรี่ยง เข้าที่ท้องหลายแผลจนถึงแก่ความตาย เหตุเพราะ นายลิน เมียง วิน เก็บกดจากการที่ผู้ตายมักใช้พฤติกรรมและวาจาข่มเหงเหยียดหยามสัญชาติมาโดยตลอด ซึ่งหลังลงมือเหตุนายลินได้หลบหนีไปหาภรรยาชาวพม่าที่ทำงานอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 และเตรียมตัวจะหลบหนีกลับประเทศบ้านเกิดฝ่ายสืบสวนจึงรีบเดินทางไปจับกุมตัวไว้ได้พร้อมมีดของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวน นายลิน เมียง วิน ผ่านล่าม ให้การรับสารภาพว่า ตนเดินทางมาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องโดยเป็นลูกจ้างร้านค้าของเก่ามานาน 4 ปีแล้ว ที่ผ่านมาผู้ตายซึ่งเข้ามาทำงานทีหลังตนและเป็นชาวกะเหรี่ยง ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน มักใช้วาจาและการกระทำข่มเหงตนมาโดยตลอดอย่างเช่นมักพูดแดกดันว่าที่บ้านตนไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ขี่ และดูถูกเหยียดหยามกันต่างๆ นานา กระทั่งเมื่อวานนี้ตนและผู้ตายทราบข่าวจากญาติๆ ทางโทรศัพท์ว่า มีเหตุการณ์กะเหรี่ยงดีเคบีเอใช้อาวุธหนัก โจมตีค่ายทหารพม่า ทำให้มีลูกปืนใหญ่ตกใส่พลเรือนพม่าเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมากทำให้ผู้ตาย ตนยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจ แต่ตนก็ไม่สนใจอะไรทำงานไปจนเลิกและเดินทางไปหาภรรยาที่โรงงานในซอยเพชรเกษม 48 ตามปกติ หลังตนเดินทางไปหาภรรยากลับมาถึงที่พักในช่วงหัวค่ำ ปรากฏว่า ผู้ตายได้ปิดประตูโรงงานไม่ให้ตนเข้าไปนอน ตนต้องโทรศัพท์ให้เพื่อนคนไทยลงมาเปิดประตูให้ พอเข้าไปในห้องนอนผู้ตายก็เดินมาหาในสภาพเมามายออกคำสั่งให้ตนไปซื้อมาม่า 1 ห่อ และเหล้าขาวอีก 1 กั๊กมาให้ ตนไม่อยากมีเรื่องจึงเดินออกไปซื้อโดยลงบัญชีของตนไว้ที่ร้านค้าใกล้ๆโรงงาน แต่เมื่อซื้อของตามคำสั่งกลับมาให้เป็นที่เรียบร้อยผู้ตายกลับไม่ยอมจบอาละวาดเตะข้าวของในห้องนอนของตน ทำให้ตนโมโหมีปากเสียงและชกต่อยกับผู้ตาย ด้วยความที่ตนตัวเล็กกว่าสู้ไม่ได้จึงคว้าอาวุธมีดปลายแหลมจ้วงแทงไปหลายครั้งก่อนเก็บข้าวของหนีไปหาภรรยาและถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
พ.ต.ท.สนชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนได้สอบถามจากเพื่อนคนงานในโรงงานเดียวกัน ทราบว่า นายลิน เมียง วิน ถูกคนตายข่มเหงจิตใจมานานแล้วแต่ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหา เพราะ นายลิน เมียง วิน ต้องทำงานส่งเงินไปเลี้ยงลูกวัย 2 ขวบ ที่ประเทศพม่าจึงยอมทนให้คนตายดูถูกมาตลอด กระทั่งวันเกิดเหตุในประเทศพม่ามีปัญหาการเมืองพอดีเลยทำให้เรื่องบานปลายยิ่งขึ้น และแม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นเพราะบันดาลโทสะแต่ชุดจับกุมต้องแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแก่นายลิน เมียง วิน เอาไว้ก่อนจากนั้นจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป