รวบได้แล้วอดีตผัวโหดเผาเมียปางตาย

มหาสารคาม- ตามรวบได้แล้ว อดีตสามีโหดใช้ทินเนอร์ราดภรรยาก่อนจุดไฟเผาตาม ตำรวจตามรวบตัวได้ที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น หลังรู้สึกเป็นห่วงมาเยี่ยมภรรยาที่โรงพยาบาล ชี้มูลเหตุบันดาลโทสะกลัวภรรยา ไปมีชายอื่น เบื้องต้น ตั้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส

จากเหตุการณ์สามีโหดใช้ทินเนอร์ราดตัวภรรยาก่อนใช้ไฟเผาร่าง ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ไม่มีชื่อ บ้านหัวขัว ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม มีผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นางมุกดาหาร นิมิตร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ 4 ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย มีแผลไฟไหม้จากการถูกจุดไฟเผาที่บริเวณแขนขวา และขาทั้งสองข้างตั้งแต่ช่วงเอวลงมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น

วันนี้ (5 ต.ค.) ชุดสืบสวน สภ.กันทรวิชัย แถลงผลการจับกุมสามีโหดก่อคดีใช้ทินเนอร์ราด และจุดไฟเผาภรรยาได้แล้ว โดย พ.ต.ต.ถาวร ยอดยรรยง สารวัตรสืบสวน สภ.กันทรวิชัย พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.กันทรวิชัย แถลงผลการจับกุม นายสมหวัง เจียมบรรจง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/2 หมู่ 20 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังก่อเหตุใช้ทินเนอร์ราดใส่ตัว นางมุกดาหาร นิมิตร ภรรยา ก่อนจะใช้ไฟแช็กจุดไฟเผาหลังจากมีปากเสียงกันรุนแรง โดยเหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ไม่มีชื่อ ก่อนจะหลบหนีไป

ชุดสืบสวน สภ.กันทรวิชัย ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกลงพื้นที่ติดตามที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ส่วนชุดที่ 2 ติดตามที่บ้านเกิดใน ต.ท่าพระ จ.ขอนแก่น โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ให้ข่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายสมหวัง ได้เดินทางมาเยี่ยมนางมุกดาหาร นิมิตร ภรรยาที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น จึงให้ชุดสืบสวนติดตามไปที่โรงพยาบาล จึงได้ควบคุมตัวนายสมหวัง ไว้ ซึ่งนายสมหวัง ได้ซื้อนมเปรี้ยวมาฝากภรรยาด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้นายสมหวัง และนางมุกดาหาร ได้พูดคุยกันเล็กน้อย จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.กันทรวิชัย

ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุเกิดจากนายสมหวัง สงสัยว่า นางมุกดาหาร จะมีชายอื่นมาติดพัน เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เกิดบันดาลโทสะนำทินเนอร์ที่ถือติดมือมาเพื่อที่จะมาเผาหญ้า ราดใส่ตัวนางมุกดาหาร และจุดไฟเผา ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งระหว่างที่หลบหนีรู้สึกเป็นห่วงภรรยา จึงได้เดินทางไปเยี่ยมภรรยาที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามรวบตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ซึ่งมีโทษจำคุก 3-15 ปี อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลจากการสอบปากคำพยาน แพทย์ และผู้เสียหายเพิ่มเติม หากพบว่ามีพฤติกรรมที่ร้ายแรงก็จะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป