ชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีนกลางแห่งประเทศไทย ร้อง สตม.จัดการคนจีนลักลอบเป็นไกด์เถื่อน เผยใช้วีซ่าท่องเที่ยว-นักศึกษา เข้ามาเป็นไกด์จำนวนมาก ทำภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยเสียหาย ด้าน ผบก.สส.สตม.แจงมีมาตรการเข้มงวดอยู่แล้ว ฝากไกด์ชาวไทยพบเห็นช่วยถ่ายภาพ-วิดีโอใช้ตรวจสอบ-จับกุม เพื่อผลักดันออกนอกประเทศ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (6 ต.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) นายไพศาล ซื่อธานุวงศ์ เลขาชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีนกลางแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยกลุ่มมัคคุเทศก์ชาวไทยประมาณ 40 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. และพ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบก.สส.สตม. หลังจากมีคนสัญชาติจีนลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในประเทศไทยจำนวนมาก
นายไพศาลกล่าวว่า มาร้องเรียนในวันนี้เนื่องจากเมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีกลุ่มชาวจีนใช้วีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่านักเรียนนักศึกษาเข้าประเทศไทย เพื่อมาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 มาตรา 16 (1) (ข) ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า สำหรับประเทศไทย บุคคลที่จะประกอบอาชีพมัคคุเทศก์จะต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนไปยืนปัสสาวะในที่สาธารณะ หรือซื้อสินค้าที่ไม่มีคุณภาพในราคาแพงเกินจริง และละเลยการให้ข้อมูลแก่ลูกทัวร์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากมัคคุเทศก์ชาวจีนทั้งสิ้นเนื่องจากบุคคลเหล่านี้ไม่รู้ขนบธรรมเนียมที่ดีของไทย เน้นแต่หาผลกำไร ไม่สนใจว่าภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
นายไพศาลกล่าวว่า ปัจจุบันมีการลักลอบประกอบอาชีพมัคคุเทศก์เถื่อนกว่า 8,000 ราย แบ่งออกเป็นมัคคุเทศก์ภาษาต่างๆ เช่น จีน รัสเซีย เกาหลี เวียดนาม เป็นต้น ในส่วนของชมรมมัคคุเทศก์ที่ออกมาร้องเรียนกับ ตม. ก็เพื่อไม่ให้ไกด์เถื่อนเหล่านี้ได้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทย
พล.ต.ต.วราวุธกล่าวว่า สตม.มีมาตรการเข้มงวดกวดขันเรื่องบัตรผ่านเข้าเมือง หรือประเภทของวีซ่ารันอยู่แล้ว หากมัคคุเทศก์ชาวไทยคนใด พบเห็นไกด์เถื่อนหรือพบการกระทำความผิด ให้ถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ เพื่อนำไปตรวจสอบตัวบุคคล ก่อนจะทำการสืบสวนสอบสวน และจับกุมเพื่อผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
