รอยเตอร์ - ในวันอาทิตย์ (23) สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงการากัสประกาศระงับการออกวีซ่าท่องเที่ยวเข้าอเมริกาชั่วคราวเหตุขาดเจ้าหน้าที่ทำงานเนื่องจากปัญหาความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาที่ในเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ จำนวนหนึ่งถูกประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร สั่งขับ
ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ได้ขับนักการทูตสหรัฐฯ 3 รายออกนอกประเทศในข้อหาต้องสงสัยว่า พวกเขาแอบให้ความช่วยเหลือสนับสนุนด้านการเงินกับนักศึกษาเวเนซุเอลาเพื่อประท้วงโค่นล้มรัฐบาลมาดูโร ซึ่งการประท้วงที่ยืดเยื้อนี้ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงมากที่สุดในรอบสิบปีของเวเนซุเอลา ซึ่งปัจจุบันล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 34 ราย
ขณะที่ทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของมาดูโรทั้งหมด
สถานทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า เหตุจากการที่เจ้าหน้าที่ของสถานทูตได้ถูกขับและความล่าช้าในการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่กงสุลคนใหม่มาประจำอยู่แทน ทำให้ทางสถานทูตไม่มีกำลังคนมากพอที่จะดำเนินการออกวีซ่าท่องเที่ยวให้แก่ผู้มาขอครั้งแรก
“จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ทางสถานทูตสหรัฐฯ ไม่สามารถเปิดให้นัดหมายได้ยกเว้นแต่ในกรณีฉุกเฉิน” สถานทูตแจ้งผ่านแถลงการณ์ที่ประกาศไว้บนเว็บไซต์สถานทูตสหรัฐฯประจำเวเนซุเอลา
นอกจากนี้ ทางสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงการากัสยังกล่าวว่า จะยังคงดำเนินการเปิดให้บริการต่ออายุวีซ่าสำหรับวีซ่าประเภทอื่นอยู่ และจะยังคงให้บริการเฉพาะสำหรับผู้ที่ได้รับนัดหมายแล้วเท่านั้น และยังย้ำให้ผู้ที่ได้รับนัดหมายทางสถานทูตเพื่อสัมภาษณ์ไม่ให้ผิดนัดเนื่องจากภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่ขาดกำลังคนทำให้ทางสถานทูตอาจไม่สามารถเปิดนัดหมายรอบใหม่ให้ได้
ทั้งสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาต่างไม่มีเอกอัครราชทูตประจำอยู่ทั้งสองประเทศนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซได้ขับไล่ทูตสหรัฐฯ ประจำชาติสมาชิกกลุ่มโอเปกออกในปี 2008