ตร.หัวหมาก ซุ่มจับผู้ต้องหาชาวรัสเซีย แอบติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์ที่ตู้กดเงินสดธนาคารกสิกรไทย ซอยรามคำแหง 58/3 จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด กระทั่งผู้ต้องหารายนี้กลับมาที่ตู้ดังกล่าวอีกครั้ง จากการตรวจค้นพบกล้องดูรหัส บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สน.หัวหมาก พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พร้อมด้วย พ.ต.ท.โสภณ ยานะธรรม รอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก พ.ต.ต.พีรรัฐ โยมา สว.สส.สน.หัวหมาก ร.ต.ท.เสฏฐวุฒิ คู่นพคุณ รอง สว.สส.สน.หัวหมาก และ ร.ต.ต.จักรกฤช สุวรรณคำ รอง สว.สส.สน.หัวหมาก ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายอังตวน ไลลิน (Mr.Anton Lilin) อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย พร้อมของกลางเครื่องสกิมเมอร์แบบสี่เหลี่ยม 1 ชุด, เครื่องสกิมเมอร์แบบกลม 1 ชุด, กล้องดูรหัส 2 ชุด, บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 1 ใบ จากกรณีพบเครื่องสกิมเมอร์ติดตั้งอยู่ที่ตู้กดเงินอิเล็กทรอนิกส์ย่านหัวหมากวานนี้ โดยจับกุมตัวได้ภายในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ปากซอยรามคำแหง 58/3 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกระปิ กทม. เมื่อวันที่ 22 ก.ย.
พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ย. เวลาแระมาณ 20.00 น. สน.หัวหมากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเครื่องสกิมเมอร์ติดตั้งอยู่ที่ตู้กดเงินสดของธนาคารกสิกรไทย สาขาร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ปากซอยรามคำแหง 58/3 เจ้าหน้าที่จคงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าเป็นเครื่องสกิมเมอร์แบบสี่เหลี่ยม จึงตรวจกล้องวงจรปิดพบว่ามีชายชาวต่างชาติเป็นผู้มาติดตั้งเครื่อง ก่อนจะวางแผนจับกุมคนร้าย โดยนำเครื่องสกิมเมอร์ไปติดไว้ที่ตู้กดเงินสดเดิมแล้ววางกำลังซุ่มดู กระทั่งวันที่ 22 ก.ย.เวลาประมาณ 16.00 น. พบชาวต่างชาติเดินมาดูตู้กดเงินสดดังกล่าว ท่าทีมีพิรุธ และมีลักษณะคล้ายชายชาวต่างชาติที่พบในกล้องวงจรปิด จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นชายต่างชาติคนดังกล่าวพบเครื่องสกิมเมอร์ กล้องดูรหัส บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จึงควบคุมตัวไว้
พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าตนเองเข้ามาในประเทศไทยได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้พักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ย่านพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนจะเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว โดยอ้างว่าตนเองทำหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์สกิมเมอร์เท่านั้น อุปกรณ์ดังกล่าวรับมาจากเพื่อน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก ออกตรวจตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ทั้งหมดแล้วแต่ไม่พบตู้อื่นๆ ถูกติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนประชาชนที่จะใช้ตู้เอทีเอ็มให้ระมัดระวังคนที่มายืนข้างหลัง หรือใช้มือบังขณะใช้บริการตู้เอทีเอ็ม เพื่อความปลอดภัยป้องกันการแอบดูข้อมูลของบัตร
พ.ต.ต.พีรรัตน์กล่าวว่า ผู้ต้องหาจะเลือกที่ก่อเหตุบริเวณตู้เอทีเอ็มที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน มีประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยใช้เวลาในการติดตั้งเพียง 16 วินาทีเท่านั้น หลังจากได้ข้อมูลจากตัวอุปกรณ์สกิมเมอร์แล้วจะใช้นำไปจัดเก็บในหน่วยความจำแล้วส่งต่อไปยังต่างประเทศ โดยจะไม่กดเงินของผู้เสียหายทันที แต่จะทิ้งระยะไว้ประมาณ 3-4 เดือน ก่อนจะที่กดเงินของผู้เสียหาย ทั้งนี้เชื่อผู้ต้องหามีผู้ร่วมขบวนการ 3-4 คน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีหรือทำเครื่องมือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลง หรือสำหรับให้ได้ข้อมูลในการปลอมแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้หรือให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลง ซึ่งเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้สินอื่นแทนการชำระด้วยเงินสดด้วยเงินสด หรือใช้เบิกเงินสด, มีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมโดยรู้ว่าเป็นของที่ปลอมหรือแปลงขึ้น ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนขยายผลต่อไป