ปธ.เครือข่ายต่อต้านการทำลายชาติ ร้องกองปราบแจ้งจับครูเซ็กซ์โฟน ล่อลวง นร.สาว ขอร่วมเพศแลกเกรด ชี้พฤติกรรมผิดต่อจรรยาบรรณครูอย่างร้ายแรง ระบุเป็นพวกเฒ่าหัวงูแฝงตัวเป็นพ่อพิมพ์ของชาติอยู่แถบภาคอีสาน
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อให้สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับครูชายสถาบันระดับอุดมศึกษาในจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน ในความผิดฐานกระทำโดยเจตนารู้สำนึกในการกระทำที่เล็งเห็นผล, กระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือพยายามกระทำความผิด, เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจให้บุคคลให้มาซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด, ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้อำนาจครอบงำ หรือข่มขืนใจด้วยประการใดๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา พร้อมกันนั้น ได้ทำหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษเอกสารถอดคำพูดจากคลิปเสียง และเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มอบให้กับพนักงานสอบสวนไว้ประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
นายสงกานต์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ทางเครือข่ายฯ ได้รับข้อมูลจากผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กว่า YouDo มีหัวข้อว่า “ครูอัปปรีย์ Sexphone” กรณีมีคลิปเสียงชายไม่ทราบชื่อและนามสกุล มีอาชีพเป็นครู สนทนากับลูกศิษย์ที่เป็นนักศึกษาหญิง ชั้นปีที่ 1 ในเชิงชู้สาว พยายามชักชวนและหว่านล้อมให้ฝ่ายหญิงมาร่วมเพศ รวมทั้งตลอดการสนทนาก็มีคำพูดลามกอนาจาร และมีการต่อรองเพื่อแลกกับผลสอบวิชาภาษาอังกฤษ แต่ฝ่ายลูกศิษย์สาวได้ปฏิเสธ ซึ่งคลิปดังกล่าวมีความยาวเกือบ 10 นาที เมื่อได้ติดตามการแชร์ข้อมูลจึงทราบว่ามีที่มาจากเพจ Best radio 89.00 Khon kaen
“กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำผิดต่อจรรยาบรรณครูอย่างร้ายแรง และหากปล่อยไว้ก็อาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับเด็กและเยาวชนรายอื่นในสถาบันการศึกษา เนื่องจากครูรายนี้ยังคงสอนอยู่ในสถาบันการศึกษา จึงต้องกำจัดออกไปจากวงการศึกษาอย่างเร่งด่วน” นายสงกานต์ กล่าว
นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมา ที่สถาบันการศึกษาของรัฐ ในจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน และชายที่เป็นครูรายนี้มีอายุประมาณ 45-50 ปี และเป็นผู้กว้างขวางในวงการศึกษา เพราะหลังจากเกิดเรื่องก็มีการช่วยเหลือกัน โดยครูรายนี้ก็เพียงถูกย้ายสลับสถานศึกษาในจังหวัดเดียวกันเท่านั้น ไม่ได้ถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรง หรือถูกพิจารณาดำเนินคดีอาญาแต่อย่างใด
นายสงกานต์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนอยากให้มีการเร่งดำเนินการ เพราะทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา จึงอยากให้เข้ามาดูแล เพราะเป็นเรื่องของครู บุคลากรทางการศึกษา ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวของกระทรวงศึกษาฯ ไปด้วย อย่างไรก็ดี ตนได้ประสานไปยังศึกษาธิการจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด ที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อขอให้มีการตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
นายสงกานต์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของข้อมูลเบาะแสในเชิงลึก คงต้องขอสงวนไว้ก่อน เพราะอาจจะกระทบต่อการพิจารณาคดีของตำรวจ แต่หากผู้ใดมีเบาะแสและข้อมูลเกี่ยวกับครูคนดังกล่าว ก็ขอให้ส่งมาให้กับทางเครือข่ายฯ หรือที่ตำรวจ บก.ป. ก็ได้ เพื่อเป็นหลักฐานใช้ประกอบการดำเนินคดี สำหรับผู้เสียหายที่เป็นนักศึกษารายนี้ก็ถือว่ามีความกล้าหาญ ที่จะปฏิเสธแม้ตนเองจะต้องสอบตกได้เกรดศูนย์ในวิชาดังกล่าวก็ตาม และกล้านำเรื่องนี้มาเปิดเผย แต่ถึงขณะนี้ตนยังไม่พบตัว จึงอยากให้ออกมาแจ้งความเอาผิด
“ผมอยากฝากให้นักศึกษาตามสถาบันต่างๆ หากต้องประสบกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ ขอให้อย่ายินยอมกระทำตาม และออกมาเปิดเผยข้อมูล เพื่อขจัดครูเหล่านี้ให้หมดไป ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่ายังมีครูที่มีพฤติกรรมเช่นนี้อีกหลายราย เพียงแต่ยังไม่ถูกเปิดโปงพฤติกรรมออกมา” นายสงกานต์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เจ้าของพื้นที่ ได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งจะต้องประสานกับทางกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะมีการพิจารณาดำเนินคดี โดยหากเป็นความผิดก็จะมีการเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป