สน.พระอาทิตย์
สีกากียุคที่มี “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” กุมบังเหียน เป็นผู้นำกรมปทุมวัน หวังว่าเด็กบ้านนอกคนนี้จะสร้างความดีเหมือนอย่างที่ลั่นวาจาไว้ว่าจะมีกอบกู้ศรัทธาจากประชาชนได้ดีขึ้น มองดูก็พอมีแนวโน้มจะไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องต้องให้เวลาพิสูจน์ในหนึ่งปีที่นั่งเก้าอี้
แค่ดูจากการเริ่มต้นเตรียมงาน พล.ต.อ.สมยศ ก็วางทิศทางการบริหารงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูเหมือนจะตรงจุดต่อปัญหาการทำงานของตำรวจที่ผ่านมา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ภาพพจน์การทำงานของตำรวจในสายตาประชาชน ดูจะติดลบและติดลบลงเรื่อยๆ ทั้งพฤติกรรมที่มีต่อชาวบ้าน รวมทั้งการทำงานที่รับใช้การเมืองมุ่งหวังสนองตอบการเมือง มากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
การที่ พล.ต.อ.สมยศ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่ง “ผบ.ตร.” เต็มตัวในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 มีหนังสือถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผู้บังคับการ (ผบก.) ผู้กำกับการ (ผกก.) และ รอง ผกก. ให้จัดทำวิสัยทัศน์ประกอบการจัดทำนโยบาย ผบ.ตร. สำหรับมอบให้ตำรวจปฏิบัติเพื่อเกิดประสิทธิภาพและเปิดโอกาสให้ตำรวจในระดับปฏิบัติการ ซึ่งมีความใกล้ชิดประชาชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของ ผบ.ตร.
ถือเป็นการเปิดหัวการทำหน้าที่ “ผู้นำ” ได้น่าติดตามตอนต่อไป
ยุทธศาสตร์นี้ “บิ๊กอ๊อด” มีแต่ได้กับได้ในทุกๆ มุม ประการแรกคือ ได้ “ใจ” จากลูกน้องที่มองว่าผู้บังคับบัญชายอมรับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชาในการกำหนดนโยบายการทำงานซึ่งจะตรงตามความต้องการของผู้ปฏิบัติมากที่สุดและไม่เคยเกิดขึ้นในการกำหนดนโยบายระดับ ตร.ผ่านๆ มา
ประการต่อมาภาพพจน์ในสายตาประชาชนจะรู้สึกถึงความเอาใจใส่ความจริงใจจากตำรวจ ที่อยากจะทำงานเพื่อประชาชน มองผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้งมากกว่าตัวเองและกลุ่มผลประโยชน์สอดคล้องกับนโยบบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่วางเอาไว้
“ให้ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ระดับ รอง ผกก.-ผบก. หรือผู้ดำรงเทียบเท่าจัดทำวิสัยทัศน์ใน 2 หัวข้อ คือ 1. จะปฏิบัติหน้าที่อย่างไรให้เป็นที่ถูกใจและเป็นที่รักใคร่ของประชาชน 2. ทำอย่างไรข้าราชการตำรวจถึงจะมีความสุขกับภารกิจ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ซึ่งให้มีความยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษเอ 4 และกำหนดส่งภายในวันที่ 19 ก.ย. 2557 โดยให้ส่งตรงทางไปรษณีย์เท่านั้น ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 4 ส่วนหลัง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330”
คือ เนื้อหาส่วนหนึ่งในบันทึกคำสั่งที่ พล.ต.อ.สมยศ ส่งไปถึงลูกน้องใต้บังคับบัญชาในสิ่งที่ต้องการให้จัดทำวิสัยทัศน์ขึ้นมาให้พิจารณา
“ผมอยากรู้ว่าระดับปฏิบัติมีความคิดเห็นอย่างไร มีปัญหาอะไรจะสะท้อนขึ้นมาผมต้องการรับฟังความเห็นจากข้างล่างจากผู้ปฏิบัติจริงๆ โดยมีกรอบว่าที่เสนอความเห็นเข้ามาต้องเป็นสิ่งที่สามารถปฏิบัติได้ตามกฎหมายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ไม่เพ้อฝัน เพ้อเจ้อจนไกลความจริง และเป็นสิงที่ปฏิบัติได้ผมเชื่อว่าในความคิดเห็นที่ส่งเข้ามาจำนวนมาก จะมีความคิดเห็น มุมมองดีๆ สะท้อนปัญหาให้แนวทางแก้ปัญหานำมาเป็นนโยบาย ผบ.ตร. ให้ตำรวจทั่วประเทศปฏิบัติ”
ที่สำคัญ และน่าจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ตำรวจรีบทำวิสัยทัศน์ส่งขึ้นมามากๆ โดยไม่ใช่แค่สักแต่ว่าเขียนๆให้ผ่านๆ ไปแต่กลั่นมาจากแนวความคิดที่สัมผัสการทำงานใกล้ชิดประชาชนที่แท้จริง นั่นคือการโปรยยาหอมจาก “บิ๊กอ๊อด” ที่บอก
“แนวคิดที่เสนอเข้ามาในครั้งนี้ผมจะนำไปในพิจารณาในการแต่งตั้งโยกย้ายวาระประจำปี 2557 ให้เหมาะสมด้วย”
ถ้าถอดรหัสคำพูด พล.ต.อ.สมยศ ประโยคนี้น่าจะหมายถึงแนวคิดที่ตำรวจแต่ละนายเสนอขึ้นมานั่นจะมีส่วนในการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหากใครมีแนวคิดการป้องกันดีๆ ก็อาจจะได้เป็นดูงานป้องกันปราบปรามตามพื้นที่ใหญ่ หรือใครมีไอเดียวแนวทางการสืบสวนคดีเจ๋งๆ ก็อาจได้ไปนั่งเก้าอี้สำคัญๆหรือไม่
หากใช่ก็น่าจะเป็นการแก้ปัญหาการทำงานของตำรวจได้อย่างตรงจุดชนิดวางคนได้เหมาะสมกับงานมากที่สุด อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในองค์กรตำรวจในยุคผ่านๆ มา ซึ่งวางงานไม่เคยเหมาะสมกับคน ส่วนใหญ่ใครที่จะได้ไปนั่งในตำแหน่งสำคัญๆ เก้าอี้พื้นที่ใหญ่ๆ ก็เป็นพวกที่มีเส้นสาย ไม่ใช่แค่เส้นหมี่ เส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ ต้องถึงขาดเส้นกวยจั๊บกันเลยทีเดียว
ยิ่งหันมาดูการแต่งตั้งระดับ “นายพล” ตำแหน่ง “รอง ผบ.ตร.-ผบช.” ประจำปี ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า รายชื่อที่ปรากฏมีโอกาสนั่งเก้าอี้สำคัญๆ ส่วนใหญ่ล้วนต่างมีทีมาที่ไป ไม่ใช่โนเนม หรือมีแค่ไอเดียดีๆ มีวิสัยทัศน์เจ๋งก็จะได้ตำแหน่งเหมือนอย่างที่ พล.ต.อ.สมยศ ยาหอมเอาไว้
พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. รักษาการ ผบช.ภ.1 ในเวลานี้ มีชื่อนั่งเก้าอี้ “ผบช.น.” คุมพื้นที่นครบาล หรือกรุงเทพมหานคร ตามสีเสื้อก็ติดตราลูกน้องใกล้ชิด “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เจ้านายเก่า พล.ต.อ.สมยศ และมีส่วนช่วยผลักดัน “บิ๊กอ๊อด” สู่เก้าอี้ ผบ.ตร.
พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบช.ก. ลูกน้อง พล.ต.อ.สมยศ ถูกแปะชือมีโอกาสนั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.1 หรือไม่ก็ ผบช.สันติบาล ซึ่งแต่ละตำแหน่งล้วนอยู่ในระดับมีเกรด หรือ พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผบช.ประจำ สน.ผบ.ตร. รักษาการ ผบช.ภ.3 นรต.31 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.สมยศ และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ก่อนหน้าก็มีชื่อไปนั่ง ผบช.ภ.2 ตอนนี้โผเปลี่ยนมานั่ง ผบช.ภ.3
เช่นเดียวกับนายพลรายอื่นๆ ที่มีชื่อติดโผแต่งตั้งงวดนี้ก็ล้วนต่างเส้นสายไปธรรมดา พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบช.สยศ.ตร.นรต.รุ่น 33 มีชื่อเอี่ยวเก้าอี้ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบช.ก.ตร. ที่ พล.ต.อ.วัชรพลประสานราชกิจ รักษาการ ผบ.ตร. ส่งไปรักษาการ ผบช.ภ.2 ก็ถูกแปะชื่อจอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผบช.งป. รักษาการ ผบช.ภ.4 กับ พล.ต.ต.ศักดาชื่นภักดี รอง ผบช.ภ.4 สาย พล.ต.อ.พัชรวาท ลุ้นชิง ผบช.ภ.4 หรือ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. เพื่อนร่วมรุ่น นรต.31 ของ “บิ๊กอ๊อด” ก็จองเก้าอี้ ผบช.ภ.6 เป็นต้น
ภาพสะท้อนที่ออกมาเช่นนี้เลยเริ่มมีคำถามย้อนกับไปหา พล.ต.อ.สมยศ ระหว่างวิสัยทัศน์เจ๋งๆ กับเส้นใหญ่ๆ ตัวเลือกไหนจะอยู่ในใจ “ว่าที่ ผบ.ตร.” มากกว่ากัน