ผู้ต้องหาขัดคำสั่ง คสช. เจอดี! ถูกผีห้องขังกองปราบฯ หลอน เผยต้องคดข้าวใส่จานเซ่นทุกวัน มิฉะนั้นจะถูกหลอก ไม่เป็นอันได้หลับได้นอน
วันนี้ (5 ก.ย) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ. พร้อมเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารได้นำตัวบุคคลที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2557 ประกอบด้วย น.ส.มาลาอ่อน จงใจ อายุ 41 ปี นายสมชาติ เมนะเสวก อายุ 50 ปี นายบัญชา สุนทรวร อายุ 27 ปี และนายวิทูร พุทน้อย อายุ 35 ปี จากชุมชนพิพัฒน์ 2 แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ มาส่งมอบ พ.ต.ท.นทธีฤทธิ์ หาญเสน่ห์ลักษณ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป. เพื่อกักตัวไว้ที่ห้องควบคุม บก.ป. เป็นเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 5-11 ก.ย.
ทั้งนี้ เช้ามืดวันนี้ กำลังทหาร พล.ม.2 รอ. สนธิกำลังร่วมกับกำลังตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เข้าตรวจค้นชุมนุนพิพัฒน์ 2 หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่าภายในชุมชนดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด มีการนำยาเสพติดชนิดยาบ้า จำนวนมากที่ขนมาจากชายแดนภาคเหนือมาซุกซ่อนไว้เพื่อจำหน่าย แต่จากการตรวจค้นชุมชนดังกล่าว และบ้านเป้าหมายด้วยการนำสุนัขดมกลิ่นเข้าตรวจค้น กลับไม่พบยาเสพติดตามที่ได้รับรายงานมา จึงทำการตรวจปัสสาวะบุคคลทั้ง 4 พบปัสสาวะสีม่วง จึงควบคุมตัวทั้ง 4 คน มาทำประวัติถ่ายรูป และนำตัวมาส่งมอบให้ พ.ต.ท.นทธีฤทธิ์ หาญเสน่ห์ลักษณ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป. เพื่อฝากควบคุมตัวในห้องขังกองบังคับการปราบปราม
และเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน พ.ท.บุรินทร์ ได้มาเบิกตัว นางวิรวรรณ พิมพ์ไทย 34 ปี นายอภินันท์ ปิ่นเงิน 22 ปี และ นายประเจียด น่วมประสิทธิ์ 54 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่กระทำความผิดตามคำสั่ง และนโยบาย คสช. ในพื้นที่รับผิดชอบ พล.ม.2 รอ. โดยทั้งหมดถูกจับกุมที่ย่านพระราม 3 ซอย 29 เขตยานนาวา กทม. พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 22 เม็ด ใบกระท่อม 28 ใบ ผลตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง ที่ทหาร พล.ม.2 รอ. ได้ควบคุมตัวมาฝากให้ควบคุมตัวไว้ห้องขังกองบังคับการปราบปรามเพื่อปรับพฤติกรรม ระหว่างวันที่ 30 ส.ค. - 5 ก.ย. โดยทหารพระธรรมนูญได้เบิกตัวไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวนกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่าย
ระหว่างเดินทางไปขึ้นรถ นางวิรวรรณ นายอภินันท์ และ นายประเจียด ช่วยกันเล่าประสบการณ์ในห้องขังกองปราบฯ ตลอด 7 วันที่มาอยู่ให้ฟังว่า ต้องเอาข้าวคดใส่จานไปวางไว้ให้เขา ทั้งเช้า-เย็น ถ้าวันไหนลืม คืนนั้นจะเดือดร้อน ไม่เป็นอันหลับอันนอนเลย
พ.ท.บุรินทร์ ซึ่งสัมผัสบรรดาผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. และต้องพาตัวมาฝากขังที่ห้องขังกองปราบฯ ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการยึดอำนาจและประกาศกฎอัยการศึก ได้เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ควบคุมตัวบุคคลที่ฝ่าฝืนกระทำความผิดกฎอัยการศึก มาฝากขังไว้ที่กองปราบฯ พบว่าแต่ละคนจะมีประสบการณ์สัมผัสสิ่งลี้ลับภายในห้องขังแห่งนี้แทบทุกคน มีบางรายจะได้ยินเสียงคนมาเคาะจานข้าว บางรายโดนกระตุกขาเวลานอน คนที่มาอยู่ในห้องขังกองปราบฯ ส่วนมากจะพากันนอนในเวลากลางวัน ในช่วงกลางคืนก็จะนั่งคุยกันไม่ยอมนอน ถามดูก็บอกว่าไม่อยากเจอหรือเห็นแบบคนที่เคยโดนมาก่อน
มีอยู่รายหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเห็นคนใส่เสื้อแดงมานั่งหันหลังให้กินข้าวตอนกลางคืนในห้องขัง จึงลุกขึ้นมานั่งดู สักพักคนเสื้อแดงก็ค่อยๆ หันมามอง ผู้ต้องขังรายนั้นก็รีบกลับไปนอนทันที ไม่กล้าหันหน้ากลับไปดูตรงนั้นอีกเลย จนเช้าถึงเล่าให้เพื่อนผู้ต้องขังฟัง ก่อนจะรู้ว่าเจอประสบการณ์แปลกๆ ของห้องขังกองปราบฯเข้าไป
มีผู้ต้องกักขังอยู่รายหนึ่งเป็นอิสลาม เจอประสบการณ์แปลกๆ ในห้องขัง เพื่อนผู้ต้องขังที่มาพร้อมกันบอกว่านอนอยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นกระโดดตัวลอยข้ามคนอื่นไปอยู่ตรงกลางเลย โดยไม่ยอมบอกอะไรคนอื่นที่ข้ามไป
ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกควบคุมตัวมาฝากขังกองปราบฯ เมื่อมีคนครบกำหนดปล่อยตัวออกไป ก็จะภาวนาขอให้มีคนอื่นถูกควบคุมตัวมาขังแทน เพื่อจะได้อยู่เป็นเพื่อนกันมากๆ ห้องขังจะได้ไม่เงียบ ซึ่งก็มักจะได้ผล พอใกล้ๆ หมด ก็จะมีคนโดนจับมาฝากขังต่อจนห้องขังไม่ว่างสักที
รายที่ชื่อบอย ที่เป็นคนเก็บเงินในคดี นายพิพัฒน์ ประธานสภา กทม. นั้น เคยบอกเล่าประสบการณ์เจอสิ่งลี้ลับจะจะ เลยว่าคนเสื้อแดงมาเขียนตัวเลขให้ 191 แต่เขาติดอยู่ในห้องขังออกไปซื้อไม่ได้ ซึ่งสลากกินแบ่ง งวดนั้นเลขท้ายรางวัลที่ 1 ก็ออก 91 ตรงเลย
ด.ต.บุญเยี่ยม ลอยแก้ว ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป. สิบเวรดูแลห้องควบคุมผู้ต้องขังกองปราบฯ ได้เล่าว่า ตนเองไม่เคยพบเห็นหรือเจอสิ่งเร้นลับที่บรรดาผู้ต้องขังบอกเล่าต่อๆ กันมาเลย พบเพียงแต่ผู้ที่ถูกมาควบคุมขังในห้องขังบอกเล่าให้ฟังว่าเห็นอดีตผู้ต้องขังที่เสียชีวิตมานั่งจ้องอยู่ใกล้ๆ เช่น ผู้ต้องขังฝ่าฝืนกฎอัยการศึกรายหนึ่งจำชื่อไม่ได้ ทราบว่าเป็นคนของรายการทีวีเอเชียอัปเดต เจอตลอด 6 วันที่โดนมาฝากขัง ถึงขนาดให้ภรรยามาเฝ้าอยู่ด้านนอกทุกคืน
เขากลัวถึงขนาดเอาธนบัตรใบละพันบาทหลายใบพับๆ น่าจะ 4-5 พัน มายื่นให้ตน บอกว่าให้ตนช่วยอยู่เป็นเพื่อนเขาตอนกลางคืนด้วย ตนไม่รับ แต่ก็พยายามส่งเสียงดังๆ ให้เขาได้ยินว่าอยู่เป็นเพื่อนเขาด้านนอกอยู่นะ ตลอด 6 คืนที่เขามานอนในห้องขังแห่งนี้
เท่าที่รู้เคยมีผู้ต้องขังเสียชีวิตในสภาพนั่งตายบ้าง ยืนตายบ้าง จากข่าวเห็นมีบอกว่าเคยมีผู้ต้องหาผู้คอเสียชีวิตไป 2 ราย เป็นผู้ชาย 1 ราย และ ผู้หญิงท้อง 1 ราย ส่วนอีก 1 ราย ตนเคยช่วยเอาไว้ ยังไม่ทันได้ผูกคอ ได้ตรวจพบเจอเชือกที่เขาเอาผ้าห่มที่เอามาทำเป็นผ้ารองเช็ดพื้นมาม้วนๆ เป็นเกลียวๆ ไว้แทนเชือก จะผูกคอ ซึ่งได้พบเจอก่อน สอบถามเขาก็บอกว่าทำไปโดนไม่รู้ตัว ไม่รู้อะไรมาดลจิตดลใจให้ทำ เพียงแค่อยากจะผูกเฉยๆ รายนั้นเลยรอดไป
ถึงแม้ห้องขังจะมีกล้องวงจรปิดไว้ตรวจดูพฤติการณ์ผู้ที่ถูกคุมขัง แต่ก็ไม่รู้เพราะไร ถึงได้ไปเลือกเอามุมที่ผูกคอตรงนั้นทุกที ซึ่งเป็นมุมอับมองในกล้องวงจรปิดไม่เห็น