xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ยุติธรรม เปิดงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” เฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษามหาราชินี พร้อมยัน คสช.ไม่ก้าวล่วงการจัดระบบแอนะล็อกหรือดิจิตอลของ กสทช. เป็นเรื่องที่ กสทช.ไปคุยกับเอกชนเอง

วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ห้องจูบิลี อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษามหาราชินี โดยมีนายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนกว่า 2,500 คนให้การต้อนรับ

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวในงาน “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” ถึงสถานการณ์ยาเสพติดว่า ที่ผ่านมาพอใจผลจับกุมในการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ไม่ใช่เพียงจับรายย่อย ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากการบูรณาการด้านการข่าว และการสั่งการให้เข้าเอกซเรย์ ตรวจค้นพื้นที่ภายในหมู่บ้านที่เป็นเป้าหมายทั่วประเทศ โดยให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านแจ้งเบาะแสว่าหมู่บ้านใดบ้างที่มีปัญหายาเสพติด ทั้งนี้ งานด้านการป้องกันและปราบปรามนั้นจะต้องเดินคู่ขนานกัน หลังจากนี้จะประเมินผลการดำเนินการของหมู่บ้านที่ได้รับเงินกองทุนแม่ เงินกองทุนทูบีนัมเบอร์วัน รวมถึงเงินช่วยเหลือจาก ป.ป.ส. และกระทรวงสาธารณสุข ว่าหลังได้รับเงินช่วยเหลืออุดหนุนไปแล้วยังมีการจับกุมยาเสพติดในหมู่บ้านหรือไม่ มากน้อยเพียงใด เพื่อนำไปจัดระบบงานในด้านปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม หากตำรวจทำงานอย่างเข้มงวดคู่ขนานกับมหาดไทย รวมถึงการกวาดล้างยาเสพติดภายในเรือนจำก็จะทำให้ปัญหายาเสพติดเบาบางไปได้มาก ทั้งนี้ตนได้ประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับตำรวจในพื้นที่ให้เข้มงวดในการปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเสียเอง

นอกจากนี้ พล.อ.ไพบูลย์ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาระบุว่าจะส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. เพื่อขอแนวปฎิบัติที่ชัดเจนกรณีสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ระบบแอนะล็อกพ้นสภาพจากฟรีทีวีไปตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ตามประกาศของคสช.ทุกฉบับ วันที่ 22, 23, 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไม่มีข้อไหนที่บอกเรื่องการจัดการความถี่เรื่องนี้เลย เริ่มตั้งแต่คำสั่งฉบับแรกเป็นการประกาศให้สถานีโทรทัศน์หยุดทำการ ต่อมาก็เริ่มให้ฟรีทีวีและสถานีวิทยุออกอากาศได้ ยกเว้นวิทยุชุมชน จากนั้นได้ประกาศอนุญาตให้ทีวีระบบบอกรับสมาชิกออกอากาศได้เพียงแต่ขอความร่วมมือในเรื่องเนื้อหา จนถึงขณะนี้ทีวีของช่องสีเสื้อต่างๆ ก็ออกอากาศได้จนครบทุกสถานี

“ดังนั้น ประกาศของ คสช.จึงไม่มีอะไรเกี่ยวกับการจัดระบบแอนะล็อก หรือดิจิตอลของ กสทช.เลย เป็นเรื่องการสร้างกระบวนการของ กสทช.เอง โดย กสทช.ต้องตัดสินใจบนพื้นฐานตรงนั้น และ กสทช.ต้องเข้าใจบทบาทของตัวเอง ทั้งนี้ ตามคำสั่งของ คสช.3 บรรทัดแรกอ่านแล้วก็จะเข้าใจทันทีว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ กสทช.เลย จึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เข้าใจเจตนารมณ์ เพราะหากได้อ่านรายละเอียดจนเข้าใจก็จะทราบว่า คสช.ไม่เคยก้าวล่วงการการจัดระบบ และเรื่องนี้ กสทช.ต้องไปคุยกับเอกชนซึ่งเป็นคู่กรณีเอาเอง”

เมื่อถามว่า กสทช.ถูกวิจารณ์เรื่องการทำงานว่าไม่เหมาะสม ควรจะถูกยุบหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ไม่ต้องมาถาม ไม่ตอบ ไม่ยุ่งกับองค์กรอิสระ

สำหรับกรณีที่ช่อง 3 อ้างคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 27 ฟ้องศาลปกครองนั้น พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนไม่ขอก้าวล่วงคำสั่งของศาล



กำลังโหลดความคิดเห็น