รายงานอาชญากรรม
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์น่าสนใจอยู่หลายคดี โดยเฉพาะการบุกปล้นธนาคาร และรถขนเงินอย่างอุกอาจ แต่ที่เด่นชัดที่สุดคงเป็นคดี คนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปล้นธนาคารออมสิน สาขาหัวลำโพง ริมถนนพระราม 4 ใกล้แยกมหานคร กทม. ก่อนกวาดเงินไปได้ประมาณ 270,000 บาท ภายในเวลา 60 วินาที เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา...
เหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อดูจากกล้องวรจรปิด จะเห็นผู้ชายสูงประมาณ 170-175 เซนติเมตร สวมใส่เสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์ สะพายกระเป๋าสีเข้มและสวมถุงมือ สวมหมวกกันน็อกครึ่งใบสีเขียว ขับรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคอาร์ 150 ซีซี ขึ้นมาจอดบนทางเท้า ก่อนชักปืนพกสั้นออโตเมติกขนาด 9 มม. ออกมาจ่อไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัย พร้อมตะโกนสั่งพนักงานเคาน์เตอร์คนหนึ่งให้ไปเปิดประตูเซฟใหญ่ แต่โชคดีที่ปิดได้ทัน สุดท้ายคนร้ายได้เปิดลิ้นชักที่เคาน์เตอร์ กวาดเงินจำนวนดังกล่าวหลบหนีไปทันที โดยมุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 6
ซึ่งคดีนี้ทาง “บิ๊กหมู” พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานสืบสวน ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ สั่งการให้ชุดสืบสวน กองบังคับการสืบสวน, กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เร่งติดตามแกะรอยข้อมูลของคนร้ายในที่เกิดเหตุทั้งหมด ตั้งแต่ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบ ข้อมูลจากการซักถามพยานในที่เกิดเหตุ เนื่องจากคนร้ายมีพฤติกรรมเชี่ยวชาญในการก่อเหตุเป็นอย่างมาก
ด้าน พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวว่า คนร้ายลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว คาดว่า น่าจะมาดูลาดเลาที่ธนาคารก่อนวันเกิดเหตุ และวางแผนมาเป็นอย่างดี เพราะตรวจสอบแล้วพบว่า คนร้ายค่อนข้างใจเย็น โดยกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ครบทุกมุม...
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า คนร้ายปล้นครั้งนี้ น่าเป็นคนเดียวกับที่เคยก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาวงเวียน 22 กรกฎา ถนนมิตรพันธ์ แขวง/เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ก่อนกวาดเงินไปได้ร่วม 847,500 บาท เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ซึ่งลักษณะการก่อเหตุครั้งนั้น คนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์สีเข้ม ใส่หมวกกันน็อกสีเขียวแบบเต็มใบ เดินปรี่เข้ามาในธนาคาร ก่อนชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่เพดานห้อง 1 นัด เพื่อข่มขู่ ก่อนจะกระโดดเข้าไปในเคาน์เตอร์ฝากถอนช่องที่ 3, 5, 6 กวาดเงินสดจำนวนดังกล่าวใส่ในกระเป๋าเป้สีดำ จากนั้นวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต๋ยี่ห้อฮอนด้า ซีบีอาร์ ที่จอดอยู่ริมถนนด้านหน้าธนาคารหลบหนีไปทางหัวลำโพง โดยใช้เวลาปฏบัติการประมาณ 60 วินาทีเท่านั้น...
จากวิธีการก่อเหตุ และอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมวกกันน็อกสีเดียวกัน ปืนลักษณะเดียวกัน และก่อเหตุภายใน 60 วินาทีเช่นเดียวกันนั้น ทางตำรวจเตรียมเร่งคนร้ายเต็มที่...โดยแว่วมาว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการบ่อนพนันในพื้นที่?
ขณะที่อีกหนึ่งคดี เป็นเหตุการณ์กลุ่ม 2 คนร้าย ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 พยายามบุกเข้าปล้นรถขนเงินของบริษัท จี 4 เอส ธนาคารกรุงไทย ในร้านอาหารตามสั่ง บริเวณริมถนนสุขุมวิท หมู่ 3 ตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง...แต่โชคดีที่ไม่มีกุญแจปลดล็อกประตูตู้เก็บเงินชั้นสุดท้าย และประจวบเหมาะกับมีรถตำรวจขับผ่าน จึงทำให้คนร้ายต้องเปลี่ยนใจหลบหนี โดยกระชากสร้อยคอทองคำ 2 บาท และปืนลูกโม่ขนาด .38 มม. 1 กระบอกไปแทน เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา...
จากเหตุการณ์ดังกล่าว กลุ่มคนร้าย 2 คน ที่สวมเสื้อโค้ตยาวคลุมหัวเข่าสีเขียวขี้ม้า และหนึ่งในนั้นสวมกางเกงขายาวสีเทาแถบเหลือง ลักษณะอ้วน 1 คน ผอม 1 คน สวมหมวกไหมพรมและหมวกกันน็อกเต็มใบทับอีกชั้น ถืออาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 บุกเข้ามาจี้พนักงานขับรถขนเงิน 3 คน ที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านอาหาร ก่อนใส่กุญแจมือ พร้อมสั่งให้หมอบลงกับพื้น จากนั้นจึงบังคับให้นำกุญแจไปเปิดรถขนเงินที่จอดอยู่หน้าร้าน แต่สุดท้ายเกิดเรื่องผิดพลาดดังกล่าว จึงทำให้แผนปล้นสะดุดลง คนร้ายได้หลบหนีไปทางอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
อย่างไรก็ตาม จากพฤติกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้ ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า น่าจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ 2 คนร้าย ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์พนักงานธนาคารออมสิน สาขาบ้านฉาง เหตุเกิดบริเวณหน้าสถานธนานุบาล (โรงรับจำนำ) เมื่อวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน...ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดระยอง เป็นแหล่งกบดานที่ “หนู ขนมจีน” หรือ “เจริญ เทพวงศ์” หัวหน้าแก๊งปล้นรถขนเงินแซมโก้ ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และชลบุรี หลบหนีการไล่ล่าของเหล่าบุรุษสีกากี...
สุดท้ายเหล่าบุรุษสีกากี ต้องเร่งไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมฝากไปยัง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 10 จัดการปัญหาปล้นแบงค์ และรถขนเงินเสียที ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดวันเว้นวันแบบนี้ โดยเฉพาะกลุ่มคนหน้าเดิม ที่ก่อเหตุซ้ำซากอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง!!!