ฝุ่นตลบ! ชิง “ผบช.” เดือด “หัวหน้า รปภ.แม้ว” คืนสีกากี

สน.พระอาทิตย์

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ มาร่วมจัดทัพปรับทิศกรมปทุมวัน แต่ละตำแหน่ง แต่ละเก้าอี้ ขยับปรับเปลี่ยนชนิดรายวัน ตามแรงสวิงจากการ “วิ่ง” ของเหล่าสีกากี “ยุทธจักร” ที่มี “ฤทธิ์เดช” เลื่องชื่อลือชา!!!

ฝุ่นตลบ! กรมปทุมวัน การแต่งตั้ง “นายพลสีกากี” ล็อตแรก ระดับ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” ตำแหน่ง “รอง ผบ.ตร.-ผบช.” ทั่วประเทศ ประจำปี ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะมานั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งแรก ไม่น่าเกินวันที่ 10 กันยายนนี้

โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายพล ยุค “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาการ ผบ.ตร. กุมบังเหียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งประกาศชัดเจนจะให้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ผบ.ตร.คนใหม่ มาร่วมจัดทัพปรับทิศกรมปทุมวัน แต่ละตำแหน่ง แต่ละเก้าอี้ ขยับปรับเปลี่ยนชนิดรายวัน ตามแรงสวิงจากการ “วิ่ง” ของเหล่าสีกากี “ยุทธจักร” ที่มี “ฤทธิ์เดช” เลื่องชื่อลือชา!!!

เก้าอี้ “รอง ผบ.ตร.” หรือ “ที่ปรึกษา สบ 10” ตำแหน่งเทียบเท่า ไม่มีอะไรต้องลุ้นกันมากนัก เพราะตามมติ ก.ตร. กำหนดการการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ข้อ 33 ระบุว่า การพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งในตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นไป ให้พิจารณาเรียงตามอาวุโส

“รอง ผบ.ตร.” ว่าง 7 เก้าอี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 1-7 เรียงหน้ากระดานกันขึ้นเป็นแถวตรง พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.ท.สุพร พันธ์เสือ พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร และพล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล

ไฮไลต์น่าสนใจต้องโฟกัสไปที่เก้าอี้ “ผู้ช่วย ผบ.ตร.” และ “ผบช.” ซึ่งจนถึงชั่วโมงนี้ แต่ละตำแหน่งยังไม่นิ่งเท่าที่ควร มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ผบช. ขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะต้องเรียงลำดับอาวุโส แต่ล่าสุดว่ากันว่าอาจต้องมีการข้ามอาวุโส ในรายของ “บิ๊กกิ๊ก” พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ซึ่งมีอาวุโสระดับ ผบช.ลำดับต้นๆ

ไม่ขอขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. ด้วยเหตุผลต้องการสานต่อโครงการสร้างตึกสำนักงานกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่เมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ

เมื่อ “บิ๊กกิ๊ก” ไม่ขยับขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. ก็ส่งผลให้แท่ง ผบช.ต้องขยับปรับกันใหม่ หลังจากเดิมเก้าอี้ “ผบช.ก.” ถูกคาดการณ์ว่า หาก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. “บิ๊กโก” พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก. นรต.31 เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กกิ๊ก” จะเข้ามาสืบทอดตำแหน่ง แต่ดูเหมือนยิ่งใกล้วันแต่งตั้งโยกย้าย แรงหนุน “บิ๊กโก” เริ่มแผ่ว

พร้อมกับมีชื่อ “บิ๊กปู” พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. รักษาการ ผบช.ภ.1 นรต.35 ลูกน้องใกล้ชิด “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ “บิ๊กโจ้” พล.ต.ต.พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี รอง ผบช.ก. นรต.35 สายใหญ่อีกรายมีชื่อแรงขึ้นมาทีเดียว จนล่าสุด “บิ๊กกิ๊ก” ต้องออกแรงยึดเก้าอี้แน่นอีกครั้ง

“ผบช.น.” หรือ “ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล” ซึ่งถือเป็นกองบัญชาการเกรดเอ คุมพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นอีกตำแหน่งที่ขยับไปขยับมา เดิมมีชื่อ “บิ๊กหยม” พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น. นรต.36 ที่ได้รับแรงหนุนจากเพื่อนเลิฟ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ “บิ๊กแดง” พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล. 1 แต่พอ “บิ๊กปู” ไปลงเก้าอี้ “ผบช.ก.” ไม่ได้ ตอนนี้ชื่อเลยถูกวางมาขึ้น “ผบช.น.” เพื่อดูแลพื้นที่ลาดพร้าว 71

อย่างไรก็ตาม การจะมาขึ้น ผบช.น.ของ พล.ต.ต.ศรีวราห์ ก็ใช่จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะว่ากันว่าก่อนทุกอย่างจะลงล็อคต้องมีการไปเคลียร์เรื่องเก่าๆ ที่มีปัญหากับอดีต ผบ.ตร. ที่มีเรื่องฟ้องร้องคาราคาซังในชั้นศาลกันอยู่ ซึ่งกว่าจะจบก็ต้องให้คนกลางพาไปเชื่อมอยู่พักใหญ่

ส่วน “บิ๊กหยม” พล.ต.ต.ชาญเทพ เลยต้องเปลี่ยนเวย์ไปนั่งเก้าอี้ “ผบช.ภ.9” แทนพล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 นรต.32 เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กนัย” พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. หลานเขย “หญิงอ้อ” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตามแรงหนุนของเพื่อนที่ยกดีกรีเคยเป็นอดีต ผู้การฯตำรวจน้ำ รู้ปัญหาขบวนการน้ำมันเถื่อน สามารถแก้ปัญหาเรื่องการลักลอบค้าน้ำเถื่อนได้ตามนโยบายที่ คสช.ต้องการ

“ผบช.สตม.” หรือ “ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” เป็นอีกเก้าอี้หนึ่งที่ต้องลุ้นกันถึงฎีกา เพราะเดิม “บิ๊กดริ๊ง” พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี จเรตำรวจ (สบ 8) นรต.รุ่น 36 อดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ไปรักษาการตำแหน่ง ผบช.สตม. แทน “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. ที่โดนไปช่วยราชการ สตช. หลายคนเชื่อว่าน่าจะมาเป็นตัวจริงไม่ยาก เพราะยุคที่ “นายเก่า” มีเพาเวอร์ แต่พอมีข่าวทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่เข้าตา มีชื่อ “บิ๊กหิน” พล.ต.ต.วิสนุ ปราสาททองโอสถ รอง ผบช.สตม. อดีตนายตำรวจที่เคยทำงานให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เข้ามาเบียดตำแหน่ง ผบช.สตม.

เก้าอี้ที่ดูนิ่งและไม่น่าจะมีใครมาเบียด คงเป็น “บิ๊กช้าง” พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบช.ก. นรต.36 ลูกน้องคนนสนิทพล.ต.อ.สมยศ ว่าที่ ผบ.ตร. น่าจะได้รับแรงส่งให้มานั่ง ผบช.ภ.1 เช่นเดียวกับ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.31 ซี้ย่ำปึ้ก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เพราะไปนั่งกินข้าวเย็นสำนักงานเพื่อนเกือบทุกวัน แม้ตอนนี้ไปรักษาการ ผบช.ภ.3 แต่เก้าอี้จริงๆน่าจะแปะไว้ที่ ผบช.ภ.2 คุมพื้นที่ภาคตะวันออก

ขณะที่โผ “นายพล” ล็อตแรก กำลังช่วงชิงงเก้าอี้กันฝุ่นตลบ ตอนนี้ก็มีข่าวที่ต้องจับตาอีกเรื่อง คือการหวนคืนสู่รั้วกรมปทุมวันอีกครั้งของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร อดีตผู้อำนวยการกองสลาก อดีตหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ลาออกจากราชการตำรวจในตำแหน่ง รอง ผบช.ภ.4 ไปเมื่อปี 2555 และไปดำรงตำแหน่ง ผอ.กองสลาก ตามติ ครม. ซึ่งตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตาม กฎ ก.ตร.แล้ว “บิ๊กโจ๊ก” สามารถกลับเข้ารับราชการได้ เพราะออกจากราชการแบบไม่ได้มีความผิดใด รวมทั้ง กฎ ก.ตร.ก็เปิดช่องไว้ให้กับตำรวจที่ลาออกไปลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือออกไปดำรงตำแหน่งอื่นตามมติ ครม. เมื่อเสร็จภารกิจแล้วสามารถขอกลับเข้ามารับราชการตำรวจได้อีกครั้ง

แต่จะเข้ามาอยู่ตำแหน่งไหน และเข้ามาเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับ ก.ตร.จะพิจารณา เช่นเดียวกับโผนายพลที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า