xs
xsm
sm
md
lg

“สุพิศาล” ทิ้งเก้าอี้ “ผบก.ป.” “โกวิทย์” เบียด “ชัยทัต” รักษาการ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“พล.ต.ต.สุพิศาลภักดีนฤนาถ” ผู้บังคับการกองปราบปราม(ผบก.ป.)
สน.พระอาทิตย์

“พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ” ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ตัดสินใจโบกมือลาชีวิตในเครื่องแบบสีกากีก่อนเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย.2557 ไปแล้ว โดยตอนนี้ “ใบลาออกจากราชการตำรวจ” ถูกยื่นถึงมือ “บิ๊กกิ๊ก” พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) บนโต๊ะทำงานเรียบร้อย

แม้กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.แรงงาน) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เพิ่งออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่พิเศษ 6/2557 แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เหตุผลสำคัญที่ทำให้ พล.ต.ต.สุพิศาล ยอมทิ้งเก้าอี้ “ผู้การประเทศไทย” ตามคำอำลาที่เจ้าตัวเปิดใจกับลูกน้องตำรวจกองปราบปรามในวันกินเลี้ยงเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา

ก็เพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในเดือนมีนาคมนี้

“บิ๊กแมว” พล.ต.ต.สุพิศาล นรต.31 รุ่นเดียวกับหัวหน้าหน่วย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ จะสุขสมหวังในสภาหินอ่อนบนเส้นทางนักการเมืองอาชีพหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง

แต่สิ่งที่น่าจับตาคือ แล้วใครจะมากุมบังเหียน หน้าที่ “รักษาการหัวหน้าหน่วยอาร์มสวย” แบบชั่วคราวแทน พล.ต.ต.สุพิศาล หลังจากใบลาออกมีผลเรียบร้อย เพราะการลาออกของ “บิ๊กแมว” เลยวาระการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจประจำปีมาแล้วรวมทั้งปัจจุบันรัฐบาลเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ ไม่น่าจะใช่เวลาที่เหมาะสมในการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพล” โดยเฉพาะตำแหน่งที่กุมกำลังสำคัญอย่าง “ผู้บังคับการกองปราบปราม”

ส่องกล้องมองนายตำรวจระดับ “รองผู้การฯกองปราบปราม” ปัจจุบันมีทั้งหมด 10 ราย ประกอบด้วย พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ บุญเลี้ยง พ.ต.อ.อภิชัย ธิอามาตย์ พ.ต.อ.สมชาย เกาสำราญ พ.ต.อ.ชัยทัต บุญขำ พ.ต.อ.ชัชชม คล้ายคลึง พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ พ.ต.อ.จักรกฤษ เอี่ยมแจ้งพันธุ์ และ พ.ต.อ.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์

หากไม่มีการมอบหมายให้ใครมา รักษาการ ผบก.ป.ตามความอาวุโส พ.ต.อ.ประสพโชค จะต้องทำหน้าที่แทน ซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านี้ช่วง 2-3 ปี ที่ พ.ต.อ.ประสพโชค ฮอตๆ คงไม่น่าจะพลาด เพราะมีดีกรีเป็น นรต.รุ่น 31 เป็นนายตำรวจที่ถูกมาว่าจะขึ้นเป็น ผบก.ป.คนต่อไป

แต่พอทุกอย่างพลิกผันจากที่เคยเป็นตัวเต็ง จนกลายเป็นตัวเกร็งไม่สามารถขยับขึ้นนั่งเก้าอี้ “ผู้การฯ” ตำแหน่งใดได้ต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมต่อไป ก็ทำให้ความฮอตของ พ.ต.อ.ประสพโชค ลดลงเรื่อยๆ และดูเหมือนน่าจะลดลงต่อเนื่องมาถึงชั่วโมงนี้ ในการคั่วหน้าที่ “รักษาการหน่วยอาร์มสวย”

ทว่า หาก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ใช้อำนาจผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในการเซ็นคำสั่งมอบหมายหน้าที่ให้มีผู้ไปรักษาการ ผบก.ป.ชื่อ “เดอะเจี๊ยบ” พ.ต.อ.ชัยทัต ซึ่งมีดีกรีระดับ “ซูเปอร์คอนเน็กชัน” น่าจะติดโผมีโอกาสนั่งรักษาการ แม้อาวุโสจะอยู่ระดับกลางๆ แต่ด้วยคุณสมบัติส่วนตัวที่เคยเติบโตในกองปราบปรามในระดับ ผกก.ปพ. หรือผู้กำกับประเทศไทยมาแล้ว ถ้าจะรักษาการผู้การประเทศไทยก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

แต่ “พ.ต.อ.ชัยทัต” ก็มีมุมสุ่มเสี่ยงให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ต้องคำนึงถึงอย่างหนัก หากมอบหมายให้ไปทำหน้าที่คุมหน่วยอาร์มสวย เพราะถ้าให้รักษาการไปแล้ว แต่พอถึงช่วงแต่งตั้งโยกย้ายปีนี้ ซึ่ง “เดอะเจี๊ยบ” ยังไม่ครบเกณฑ์แต่งตั้งขึ้นผู้การฯ แล้วเปลี่ยนให้คนอื่นมาเป็น ผบก.ป.แทนก็อาจจะทำให้ พ.ต.อ.ชัยทัต เสียความรู้สึก

แต่ถ้าจะให้ พ.ต.อ.ชัยทัต ลากยาวรักษาการไปจนกว่าครบขึ้นก็มีความเป็นไปได้ ก็ต้องอยู่ที่ ก.ตร.จะว่าอย่างไร

เพราะต้องยอมรับ ก.ตร.ชุดนี้แปลกๆ บทจะอ่อนก็ปวกเปียกบทจะแข็งก็แข็งโป้ก โดยเฉพาะการประชุม ก.ตร.ครั้งล่าสุด วันศุกร์ที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการขอยกเว้นหลักเกณฑ์แต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผกก.ปพ.บก.ป.ขึ้นเป็น ผกก.ปพ.บก.ป. หรือ ผกก.คอมมานโด ซึ่งแวดวงสีกากีต่างก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก.ตร.น่าจะอนุมัติยกเว้นหลักเกณฑ์ให้ แต่สุดท้าย ก.ตร.เบรกหัวทิ่มชนิดงงกันทั้งกรมปทุมวัน

โดย ก.ตร.อ้างเหตุผลเพิ่งดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น ซึ่งน้อยเกินไป เนื่องจากกฎ ก.ตร.ต้องดำรงตำแหน่งรอง ผกก.มาไม่น้อยกว่า 3 ปี จึงจะเลื่อนเป็น ผกก.ได้

ตัวเลือกที่ดูจะมีน้ำหนักและน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด “บิ๊กกิ๊ก” อาจจะเลือกส่ง พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ลงไปรักษาการ ผบก.ป.แทน พล.ต.ต.สุพิศาล ที่ลาออกจากราชการ ซึ่งดูเหมาะสมลงตัว

ด้วยเหตุผลประการแรก การส่งระดับ รอง ผบช.ก.ลงมาทำหน้าที่รักษาการ ผบก.ป.ซึ่งแม้จะเป็นตำแหน่งล่างกว่า แต่ก็อยู่ในระนาบเดียวกัน เพราะผู้ดำรงตำแหน่งยศ พล.ต.ต.เท่ากัน ซึ่งจะมียศมากกว่า รอง ผบก.ในหน่วยที่มียศ พ.ต.อ.การบังคับบัญชาสั่งการจะสะดวกกว่าให้ผู้มีตำแหน่งเท่ากัน ยศเท่ากันเพียงแต่รับหน้าที่มารักษาการสั่งการ

ประการที่สอง พล.ต.ต.โกวิทย์ เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.31 ของทั้ง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และ พล.ต.ต.สุพิศาล ความสนิทสนมไว้วางใจในการสานต่อการทำงานไม่ให้สะดุดหยุดนิ่งก็สะดวก โดยเฉพาะ พล.ต.ต.โกวิทย์ กับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่สนิทสนมรู้ใจกันอย่างมาก

ประการต่อมา ในเดือนตุลาคม 2557 หรืออีก 7 เดือนข้างหน้า พล.ต.ต.โกวิทย์ ก็จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งจะไม่มีผลเกี่ยวเนื่องในตำแหน่ง ผบก.ป.เพราะเมื่อถึงช่วงนั้นก็จะถึงเวลาการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพลประจำปี พล.ต.ต.โกวิทย์ ที่รักษาการก็จะเกษียณราชการไปพอดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติคัดสรรผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่ง ผบก.ป.โดยไม่ต้องห่วงความรู้สึกหรือผูกมัดกับผู้ที่รักษาการตำแหน่งอยู่

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทิศทาง กองปราบปราม หน่วยอาร์มสวยที่ถือว่าเป็นหน่วยกำลังสำคัญของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงน่าจะเหมาะสมลงตัว และมีผู้นำหน่วยคนใหม่หลังจาก พล.ต.ต.สุพิศาล โบกมืออำลา ซึ่งแม้จะแค่รักษาการตำแหน่งแต่ก็ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย

และชื่อ พล.ต.ต.โกวิทย์ ก็มีภาษีดีกว่า พ.ต.อ.ชัยทัต ณ ข้อมูลปัจจุบันไม่เกี่ยวกับปัจจัยนอกเหนืออื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น