ทหาร ตำรวจ ปส. จนท.ป.ป.ส. ผสานกำลังปูพรมปิดล้อม 49 เป้าหมายในพื้นที่ 13 จังหวัด บุกยึดทรัพย์เครือข่ายเอเยนต์ค้ายาบ้าชาวเขารวมกว่าร้อยล้านบาท เผยตั้งแต่ มิ.ย. 56 - ก.ค. 57 จับกุมผู้ร่วมขบวนการในเครือข่ายนี้ 13 คดี ได้ของกลางยาบ้ากว่า 18.8 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 10 กิโล
วันนี้ (31 ส.ค.) เวลา 08.30 น. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมอำนวยการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนถึงภาคเหนือ รวม 49 เป้าหมาย มูลค่าทรัพย์ประมาณ 100 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15-16 มีนาคม 2557 ตำรวจ ปส.จับกุมกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดชาวเขา โดยมีนายกรทอง ลีสายเกิด กับพวกรวม 9 คน พร้อมของกลางยาบ้า 3 ล้านเม็ด เป็นยาบ้าที่ประทับตราเพชร บรรจุอยู่ในกระสอบป่าน 15 กระสอบที่ จ.เพชรบูรณ์ จากการสอบสวนขยายผลและตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่ามีบุคคล 3 กลุ่มทำหน้าที่ด้านการเงินไปพร้อมกัน โดยจะใช้บัญชีธนาคารในชื่อของเครือญาติ และในชื่อของบุคคลอื่น โอนและรับโอนเงินเพื่อการค้ายาเสพติดจากลูกค้า รวมถึงค่าจ้างลำเลียง และค่ายาเสพติดที่จ่ายให้แก่เจ้าของยาเสพติด
จากการแกะรอยการใช้โทรศัพท์ทราบว่า นายเรืองฤทธิ์ ย่างวินิจฉัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ในคดีตรวจยึดยาบ้า 158,000 เม็ด ไอซ์ 1,020 กรัม ได้เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 55 สภ.เถิน จ.ลำปาง เป็นผู้ทำหน้าที่ว่าจ้างลำเลียง รับเงินค่ายาเสพติดจากผู้ซื้อ และจ่ายเงินค่าลำเลียง โดยเครือข่ายนี้มีลักษณะการลำเลียงยาเสพติดเป็นทอดๆ แบ่งเป็น 3 ทีม ทีมที่ถูกจับกุมได้เป็นทีมที่ 2 โดยทีมแรกขนจากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านมาส่งให้กับทีมที่ 2 ที่รอรับช่วงต่อในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วลำเลียงมาเก็บพักไว้ในพื้นที่ตอนในเพื่อรอส่งต่อให้ทีมที่ 3 ลำเลียงส่งต่อกลุ่มลูกค้าพื้นที่ชั้นในและจังหวัดใกล้เคียง เช่น กทม. จ.เพชรบุรี จ.ชัยนาท จ.ราชบุรี และ จ.สงขลา โดยกลุ่มลูกค้านอกจากเป็นผู้เสพยาเสพติด หรือเป็นนักค้ายาเสพติดรายย่อยแล้วยังมีนักโทษในเรือนจังหวัดราชบุรีเป็นผู้ติดต่อสั่งการซึ่งเป็นเครือข่ายรายใหญ่มีบทบาทสำคัญในการลักลอบลำเลียงยาบ้าจำนวนมากจากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเก็บพักในพื้นที่ตอนในก่อนส่งจำหน่ายลูกค้าในหลายพื้นที่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบ ตำรวจ ป.ส. ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส.สืบสวนขยายผลและยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนี้ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 6 และมาตรา 8 รวม 23 คน ทั้งหมด 49 เป้าหมาย ในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.อุตรดิตถ์ จ.นครสวรรค์ จ.ตาก จ.ชัยนาท จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการปฏิบัติการเป้าหมายในพื้นที่ จ.เชียงราย ในคดีนี้ ปส. และเจ้าหน้าที่ทหารเป็นกำลังหลักในลงพื้นที่ปฏิบัติการ ในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ส.ได้สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมยึดอายัดทรัพย์สิน และจัดระบบบริหารจัดการทางไกล เพื่อให้การบูรณการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้จัดระบบตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผ่านแอปพลิเคชัน CLEAR SEA ที่สามารถส่งภาพเคลื่อนไหวผ่านโทรศัพท์มือถือเข้าสู่ห้องบัญชาการของ ศปก.ป.ป.ส. ทำให้สามารถสั่งการได้แบบ Real time รวมทั้งสามารถเก็บไว้เป็นหลักฐานการปฏิบัติงานอีกด้วย
เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบ ตำรวจ ป.ส.ที่ร่วมกันปฏิบัติการในวันนี้ โดยตั้งแต่มิถุนายน 2556 ถึงกรกฎาคม 2557 สามารถจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายนี้รวม 13 คดี ของกลางเป็นยาบ้า 18.8 ล้านเม็ด และไอซ์อีก 10 กิโลกรัม จะเห็นได้ว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ที่มีคนเกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยมีเส้นทางการลำเลียงตั้งแต่เหนือจดใต้ มีทั้งนำเข้ายาเสพติด ลักลอบลำเลียง กระจายยาเสพติด และจำหน่ายในจังหวัดต่างๆ อย่างไรก็ตาม การปูพรมยึดอายัดทรัพย์สินครั้งนี้ได้ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ถือเป็นการตัดวงจรทางการเงินของเครือข่ายได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส.เตรียมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อลดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสังคมให้ได้มากที่สุด