บช.น.เผยผลการปฏิบัติการล็อกล้อทั่วกรุงวันแรก 869 ราย ทั่วประเทศ 2,000 ราย ยังไม่รวมภาค 3, 5 และ 6 เผยการจราจรคล่องตัวขึ้น ประชาชนให้ความร่วมมือดี
เมื่อเวลา 20.00 น.วานนี้ (18 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา สบ 10 พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. และพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. แถลงผลการปฏิบัติล็อกล้อทั่วกรุงว่า มีปริมาณรถที่กระทำความผิดลดลง การจราจรคล่องตัวยิ่งขึ้น แต่ได้กำชับให้ บก.น.1-9 เร่งดำเนินการมารตราการในพื้นที่รับผิดชอบ ส่วนพื้นที่ตำรวจภูธรภูธรภาค 1 จะเน้นการปฏิบัติการที่ จ.สมุทรปราการ จันนทบุรี และปทุมธานี ที่มีจะมีรถจอดกีดขวางทางการจราจร ซึ่งได้ปฏิบัติการล็อกล้อ 193 ราย ส่งผลให้การจราจรคล่องตัวยิ่งขึ้น
พล.ต.อ.วุฒิกล่าวว่า ส่วนตำรวจภูธรภาค 2 จะเน้น จ.ชลบุรี และแหล่งท่องเที่ยว ตำรวจภูธรภาค 3 จะเน้น จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ตำรวจภูธรภาค 5 จะเน้น จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ตำรวจภูธรภาค 6 จะเน้น จ.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าสภาพการจราจรไม่น่าเป็นห่วง แต่เจ้าหน้าที่ต้องลงพื้นที่ปฏิบัติ เพราะว่าจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว อีกทั้งไทยยังเป็นเส้นทางผ่าน
“สำหรับตำรวจภูธรภาค 8 จะเน้น จ.สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต เกาะสมุย กระบี่ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยว โดยในภาพรวมจับกุมผู้กระทำความผิด 2,000 ราย ในพื้นที่ บช.น.869 ราย ยังไม่รวมของภาค 3, 5 และ 6”
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ร่วมดำเนินการ ตั้งแต่พิธีเปิดที่กองบังคับการตำรวจจราจร และการปฏิบัติในพื้นที่มาตลอดทั้งวัน สำหรับพื้นที่ของ บช.น.ทั้งเส้นทางหลัก และเส้นรอง จะล็อกล้อรถที่จอดในที่ห้ามจอด และจอดขวางการจราจร ส่งผลให้การจราจรคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
“ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี และคาดว่าจะดำเนินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นผิวการจราจรหน้าสถานบริการที่จอดขวางทางการจราจร”
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า เบื้องต้นได้วิเคราะห์การจราจร ปรากฏว่าถนนเส้นหลักที่มีการล็อกรถ คือ ถนนพัฒนาการ พื้นที่ บก.น.4 ส่วน บก.น.1 ถนนเพชรบุรี บก.น.2 ถนนพหลโยธิน บก.น.3 ถนนสีหะบุรานุกูล บก.น.5 ถนนสุขุมวิท บก.น.6 ถนนใต้ด่วนสีลม บก.น.7 ถนนร่องบรม บก.น.8 ถนนวุฒากาศ และบก.น.9 ถนนเพชรเกษม โดยในส่วนของ บก.จร.จะเข้มงวดถนนกำแพงเพชร เพราะการจราจรติดขัด โดสรุปเบื้องต้นถนนสายหลัก 10 เส้นทาง และสายรอง 7 เส้นทาง มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ วันที่ 26 สิงหาคมนี้จะมีการแถลงผลการล็อกล้อทั่วกรุงเทพฯ ที่กองบังคับการตำรวจจราจร