กองปราบฯ จับหนุ่มลูกครึ่งไทย-ปากีฯ ขโมยมือถือ 10 เครื่อง บนรถไฟขบวนกรุงเทพ-สุไหงโก-ลก สารภาพช่วยดูต้นทาง ซัดเพื่อนที่หลบหนีลงมือก่อเหตุ ก่อนแบ่งโทรศัพท์ให้ 2 เครื่อง ด้านตำรวจเร่งตรวจสอบโยงเหตุการณ์รุนแรง 3 จังหวัดใต้หรือไม่ ยันคนร้ายไม่ได้มอมยาผู้โดยสาร
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผบก.รฟ., พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผกก.6.บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายอุสมาน หรือสมนึก อาดัม อายุ 19 ปี ลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังก่อเหตุลักทรัพย์บนขบวนรถไฟสายกรุงเทพ-สุไหงโก-ลก
พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผกก.6.บก.ป.กล่าวว่า หลังจากที่เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาเกิดเหตุลักทรัพย์บนตู้ที่ 10 ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณ ที่ 17 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก ได้โทรศัพท์มือถือไป 10 เครื่อง เงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ทาง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.ได้สั่งให้กองปราบปรามเข้าไปร่วมสืบสวนสอบสวนร่วมกับตำรวจ บก.รฟ.ตนได้นำชุด กก.6.บก.ป.ลงไปสืบสวนในพื้นที่เกิดเหตุ ด้วยการจำลองสถานการณ์บนขบวนรถไฟที่เกิดเหตุ และตามไปสอบปากคำผู้เสียหายแต่ละราย
พ.ต.อ.ธีรเดชกล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตั๋วโดยสารที่นั่งของผู้โดยสารในตู้ที่ 10 ทั้งหมดประมาณ 40 คน แล้วไล่ตรวจสอบทีละคน จนพบว่าที่นั่งเลขที่ 37-38 น่าสงสัยที่สุด จึงได้ตรวจสอบรายชื่อจนพบว่าผู้ที่ซื้อตั๋วคือ นายอุสมาน เมื่อได้รายชื่อมาจึงได้เร่งติดตามตัวโดยใช้เทคนิคการสืบสวนสมัยใหม่ จนเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซิมการ์ด 3 อัน ภายในชุมชนย่านคลองหลวง ต.ปทุมธานี นำตัวมาสอบสวน นายอุสมานให้รับสารภาพว่าเป็นคน อ.แม่สอด จ.ตาก ได้เดินทางมาเรียนภาษาอาหรับที่ย่านมีนบุรี ก่อนเกิดเหตุกำลังจะเดินทางลงไปที่ จ.ยะลา เพื่อซื้อชุดเรียน ขณะที่มาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงได้พบกับนายอับดุลเลาะ สาหะ เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันและกำลังจะนั่งรถไฟลงไป จ.ยะลาพอดี เลยซื้อตั๋วมานั่งด้วยกัน โดยนายอับดุลเลาะได้บอกตนว่าจะขโมยทรัพย์สินผู้โดยสารบนขบวนรถไฟ ให้ตนคอยดูต้นทางให้ จากนั้นนายอับดุลเลาะได้เดินถือสายชาร์จโทรศัพท์ไปตามจุดที่มีปลั๊กเสียบ เมื่อเห็นผู้โดยสารหลับจะหยิบทรัพย์สินมา จากนั้นจะเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนตนไม่รู้ จนเมื่อถึงสถานีรถไฟ จ.ยะลา นายอับดุลเลาะได้แบ่งโทรศัพท์ให้ตน 2 เครื่องก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.อัครเดชกล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่กองปราบปรามจับกุมผู้ต้องหารายนี้แล้ว กำลังสอบสวนเพื่อติดตามคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยสั่งให้ พ.ต.อ.ธีรเดช ตรวจสอบว่าผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วยหรือไม่ เพราะการขโมยโทรศัพท์ไปแล้วไม่นำไปขาย คนร้ายอาจจะมีจุดประสงค์แอบแฝง
ด้าน พล.ต.ต.ธนังค์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีข่าวออกมาว่าผู้เสียหายถูกมอมยา ขอยืนยันว่าจากการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ของกองพิสูจน์หลักฐาน โดย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ 10 ได้ตรวจสอบผ้าม่าน ชุดเครื่องนอน หาหลักฐานต่างๆ แล้วยืนยันว่าไม่ได้มีการมอมยาเกิดขึ้น ขอให้ผู้โดยสารทั้งหมดวางใจได้ว่าไม่มีการมอมยาเกิดขึ้นบนขบวนรถไฟอย่างแน่นอน ทั้งนี้จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจตราให้มากขึ้นพร้อมกับสร้างระบบการรักษาความปลอดภัยในด้านต่างๆ เพื่อผู้โดยสารจะได้สบายใจเมื่อต้องขึ้นรถไฟครั้งต่อไป สำหรับนายอุสมานผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่กองปราบปรามจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันพรุ่งนี้ เวลา 11.00 น.ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)