xs
xsm
sm
md
lg

พฐ.ตรวจรถไฟด่วนพิเศษทักษิณ หลังถูกมือดีฉกทรัพย์ผู้โดยสารยกโบกี้ ไม่ยันชัดถูกวางยา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10)  นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เข้าตรวจสอบหาวัตถุพยานและเก็บหลักฐานเพิ่มเติมภายในโบกี้รถไฟตู้นอนคันที่ 10 ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณ ที่ 37 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุคนร้ายลักทรัพย์ผู้โดยสารบนโบกี้รถไฟ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา
“จรัมพร” นำทีม จนท. กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจโบกี้รถไฟด่วนพิเศษทักษิณ กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก หลังถูกมือดีฉกทรัพย์ผู้โดยสาร 9 ราย พร้อมนำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าม่าน ผ้าห่ม ตรวจหาสารเคมีตกค้าง ยังไม่ยืนยันว่ามีการวางยาสลบ รอผลตรวจร่างกายผู้โดยสาร

วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) บริเวณชานชาลาที่ 4 พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ (ผบก.รฟ.) นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เข้าตรวจสอบหาวัตถุพยานและเก็บหลักฐานเพิ่มเติมภายในโบกี้รถไฟตู้นอนคันที่ 10 ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณ ที่ 37 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุคนร้ายลักทรัพย์ผู้โดยสารบนโบกี้รถไฟ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยโบกี้ที่เกิดเหตุ มีผู้โดยสารประมาณ 32 คน จากจำนวนที่นั่งทั้งหมด 40 ที่นั่ง และมีผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์ไปจำนวน 9 คน ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปในครั้งนี้ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ จำนวน 10 เครื่อง เงินสด 2,500 บาท และอุปกรณ์โทรศัพท์จำนวนหนึ่ง โดยใช้เวลาในการตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวภายหลังการตรวจสอบ ว่า ในวันนี้เป็นการตรวจหาวัตถุพยานต่างๆ เนื่องจากผู้เสียหายสงสัยว่ามีการวางยานอนหลับหรือไม่ โดยจะตรวจหาสารเคมีตกค้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการนำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าม่าน ผ้าห่ม จากโบกี้ที่เกิดเหตุทั้งหมด 32 ชุด จาก 40 ชุด ตามจำนวนผู้โดยสาร ไปตรวจสอบ ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะในการตรวจหาสารเคมี นอกจากนี้ จะมีการสอบปากคำผู้เสียหายในขบวนรถ รวมทั้งตรวจร่างกายเพื่อเก็บตัวอย่างสารเคมีที่อาจมีตกค้างในร่างกายด้วย โดยต้องพิจารณาคำให้การถึงกิจกรรมของผู้โดยสารที่ทำในระหว่างการเดินทางด้วย เนื่องจากหากมีการใช้สารเคมีทำให้หลับ เช่น การรมยา หรือ ยานอนหลับ น่าจะเป็นการกระทำรายบุคคลมากกว่า

พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเหตุดังกล่าวมีการวางยาหรือไม่ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะลงมือในช่วงเวลาประมาณ 03.00 - 06.00 น. ขณะที่รถไฟขบวนดังกล่าววิ่งมาระหว่างสถานีสุราษฎร์ธานี ถึง สถานีทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยผู้ก่อเหตุอาจจะแฝงตัวมากับขบวนรถไฟ แต่ยังไม่สามารถชี้ชัด หรือยืนยันได้ว่าเป็นการวางยาผู้โดยสารทั้งตู้หรือไม่ ต้องตรวจร่างกายของผู้โดยสารอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้โดยสารส่วนใหญ่ไปลงที่สถานีปลายทางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น คาดว่าหลังก่อเหตุน่าจะลงที่ระหว่างสถานีสุราษฎร์ธานี หรือ ชุมทางทุ่งสง


กำลังโหลดความคิดเห็น