รอง ผบช.น. เผยผลการจัดระเบียบรถตู้ที่ผ่านมาจับกุมผู้กระทำผิดใช้รถผิดประเภท 76 ราย ไม่มีใบขับขี่ 50 ราย ปลื้มผลโพลระบุ ปชช. พอใจแต่ต้องการให้ติดสัญญาณเตือนภัยในรถกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ซึ่ง จนท. จะเร่งพิจารณาว่าทำได้หรือไม่
วันนี้ (15 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ม.2รอ.) และ นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (ผอ.สนภ.) เปิดเผยหลังการประชุมการจัดระเบียบรถตู้ว่า ได้แยกหน่วยปฏิบัติหารจัดระเบียบของรถตู้ 3 หน่วย คือ กรมขนส่งทางบก ทหาร และตำรวจ โดยมีผลการจับกุมผู้กระทำผิดตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. จนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย รถผิดประเภท 76 ราย และไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 50 ราย รวมทั้งมีผลสำรวจจากสวนดุสิตโพล เอยูโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่ระบุว่าผลการจับระเบียบรถตู้เป็นที่น่าพึงพอใจของประชาชนผู้ใช้บริการรถตู้ทั้ง 9 จุด 9 กองบังคับการ และในส่วนของวิภาวดี พื้นที่ของ บก.จร. ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการรถตู้และประชาชนผู้ใช้บริการรถตู้ อาจจะมีเพิ่มเติมในส่วนของการป้องกัน คือการติดสัญญาณเตือนภัย ที่เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน 90% เพราะหากมีการเกิดเหตุภายในรถตู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำตามจุดต่างๆ ก็จะรู้และไประงับเหตุได้ทัน ซึ่งทางกรมขนส่งทางบกจะไปตรวจสอบว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กองบังคับการ 1-9 ลงพื้นที่ไปสำรวจสถานศึกษาที่มีการใช้รถตู้รับส่งนักเรียน 250 สถาบัน จำนวน 2,000 คัน จากผลสำรวจพบว่าจะมีรถตู้ของโรงเรียน และรถตู้ที่รับส่งนักเรียนรับจ้าง ในส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเข้มในเรื่องของกฎกระทรวงที่กำหนด คือ ตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่รถ ซึ่งจะต้องแยกเพราะรถตู้ป้ายดำ จะเป็นพ.ร.บ.รถยนต์ และรถตู้ของโรงเรียน จะเป็น พ.ร.บ.กรมขนส่งทางบก และจะต้องมีใบรับรองจากกรมขนส่งทางบกว่าได้เข้าอบรมพิเศษให้กับผู้ขับขี่ ทั้งนี้ กรมขนส่งทางบกได้เพิ่มมาตรการป้องกัน คือ จะตรวจสภาพรถยนต์สาธารณะและรถตู้โดยสารปีละ 2 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการสำรวจรถรับส่งนักเรียนตามสถานศึกษาต่างๆพบปัญหาหรือไม่ พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ กล่าวว่า มีบ้าง แต่เรื่องหลักๆ จะเป็นความไม่เข้าใจ ที่จะต้องมาลงทะเบียนก่อนที่จะรับส่งนักเรียน เพราะทางกรมขนส่งทางบกมีกฎระเบียบและข้อปฏิบัติเยอะ