ก.ยุติธรรม จัดสัมมนา “ทิศทางการพัฒนากระทรวงยุติธรรม ปีงบประมาณ 2558” ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อความน่าเชื่อถือในระบบกระบวนการยุติธรรม และเร่งรัดวางรากฐานที่ดีแก่ประเทศ
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ห้องรอยัลจูบิลี่บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเวลา 9.30 น. นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในงานโครงการสัมมนา “ทิศทางการพัฒนากระทรวงยุติธรรม ปีงบประมาณ 2558” และนำคณะผู้บริหารร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนงานกระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้งมอบรางวัลการนำเสนอผลงานดีเด่นของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม
นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการบริหารและพัฒนาประเทศ ในปีงบประมาณ 2558 ไว้ 8 ยุทธศาสตร์ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมมีส่วนในแผนงานดังกล่าว 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. การฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อความน่าเชื่อถือในระบบกระบวนการยุติธรรม และเร่งรัดวางรากฐานที่ดีแก่ประเทศ เช่น การบูรณาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาการทุจริตอย่างเป็นระบบ 2. การทำงานเพื่อความมั่นคงแห่งรัฐ และ 3. การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ส่วนกระแสข่าวเรื่องการยุบกรมจำนวน 3 กรมนั้น รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินเรื่องการยุบกรมในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ หน่วยงานทั้งหมดในกระทรวงไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวที่จะเอาไปง่ายๆ และตนไม่มีแนวคิดในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามถ้าจะมีการปรับโครงสร้างแต่ละหน่วยงานก็คงเป็นดุลยพินิจของผู้ใหญ่ที่บริหารประเทศ
นายชาญเชาวน์ ยังกล่าวถึงกรณี “อุ้มบุญ” ว่า วานนี้ (14 .ส.ค.) เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทยโทรศัพท์มาหาตน เพื่อถามถึงเรื่องการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญ เนื่องจากที่ผ่านมามีชาวออสเตรเลีย ที่มีบุตรยากหรือไม่สามารถมีบุตรได้เข้ามาทำอุ้มบุญในประเทศไทยกว่า 200 ราย ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ใช่การทำอุ้มบุญเพื่อการพาณิชย์ เพียงแค่อยากมีลูก ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทำอุ้มบุญแล้ว มีการทำเอกสารรับรองบุตรและเอกสารตามราชการตามปกติ จากนั้นก็นำบุตรกลับประเทศ ทั้งนี้ ทางรัฐบาลออสเตรเลียมีความกังวลในข้อกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีกฎหมายรองรับเรื่องดังกล่าวชัดเจน จึงอยากประสานหน่วยงานต่างๆ ผ่านกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอให้ช่วยเหลือในด้านกฎหมายแก่ชาวออสเตรเลียที่เคยทำอุ้มบุญในประเทศไทย และขอให้กระทรวงยุติธรรมทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆรวมทั้ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่รอกฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) ให้มีกฎหมายรองรับกรณีนี้อย่างถูกต้องตามหลักสากล เหมือนประเทศอื่น อย่างไรก็ตามทางกระทรวงยุติธรรมจะศึกษาข้อกฎหมาย และนำเสนอ คสช. สนช. และผู้บริหารประเทศ เพื่อผลักดันให้มีกฎหมายอย่างถูกต้องโปร่งใส
