ศาลสั่งจำคุก 4 ปี หนุ่มอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ขู่ตรวจสอบเงินในบัญชี เหยื่อหวาดกลัวโอนเงินให้ 2 แสนกว่าบาท แต่รับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือติกคุก 2 ปี
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันนี้ (15 ส.ค.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีดำ อ.2384/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสหภาพ คำสอน อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 5 ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบายหลอกลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2554 เวลากลางวัน จำเลย กับพวกที่ยังหลบหนี ร่วมกันออกอุบายหลอกลวงนายสุพบ จำปาวงษ์ อายุ 45 ปี ผู้เสียหาย โดยโทรศัพท์เข้าโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายแล้วอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชี พบว่าเงินในบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายมีจำนวนมาก และหมุนเวียนมากผิดปกติ เข้าข่ายการฟอกเงิน จึงข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินจำนวน 209,942 บาทเข้าบัญชีจำเลยโดยทุจริตมิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง กทม. ต่อมาวันที่ 13 มิ.ย. 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยได้ที่ จ.ลพบุรี ส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวางดำเนินคดี ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ให้การรับสารภาพในชั้นศาล
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (6), (7) ประกอบมาตา 83 พิพากษาจำคุก 4 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 2 ปี และให้จำเลยคืนเงินจำนวน 209,942 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย
