“ยู่ยี่”นอนคุก ศาลชั้นต้นไม่ให้ประกันตัวรอลุ้นศาลอุทธรณ์พิจารณาปล่อยตัวสู้คดีลักลอบขนโคเคน

ศาลสั่งจำคุก 15 ปี 3 เดือน “ยู่ยี่” อดีตนางแบบสาว ครอบครอง-นำเข้าโคเคน หลังเดินทางกลับจากเวียดนาม และคดีครอบครองสัตว์ป่า พร้อมให้ปรับเงิน 1.5 ล้านบาท ด้านทนายยื่นเงินสด 2 ล้านขอประกัน ศาลพิเคราะห์คำร้องแล้วเห็นควรส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ห้อง 906 เมื่อเวลา 09.30.น.วันนี้ (12 มิ.ย.) ศาลนัดพิพากษาคดีดำ อย.122/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 1 เป็นโจทก์ฟ้องนางชัชชญา เกวสต้า รามอส อายุ 41 ปี หรือยู่ยี่-อลิสา อินทุสมิต อดีตนักร้อง นักแสดง และนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง เป็นจำเลยในความผิดฐานนำเข้าในราชอาณาจักรและมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) จำนวน 251 กรัม ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

กรณีเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2556 อัยการฝ่ายคดียาเสพติด 1 ได้ยื่นฟ้องอดีตนักร้องสาวว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินดอนเมือง (ตม.) พบจำเลยเดินทางจากประเทศเวียดนาม มายังอาคารผู้โดยสารขาเข้าและเข้าห้องน้ำ มีท่าทางพิรุธจึงขอค้นตัวพบโคเคนซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 2 อยู่ในกระเป๋าเดินทาง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง แจ้งข้อหาดำเนินคดีว่านำเข้ามาในราชอาณาจักรและมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 16, 17, 68, 69 ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ โดยท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ ขอให้ศาลบวกโทษตามความผิดคดีลักลอบมีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำพิพากษาในคดีแดงที่ 2366/2555 ลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 2,000 บาท เข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย

โดยวันนี้ นางชัชชญา “ยู่ยี่” อดีตนางแบบสาว ซึ่งได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมเบิกความว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น.เศษ ระหว่างพยานปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้รับแจ้งว่าได้ยินเสียงหญิงสาวส่งเสียงดังมากจากห้องโถงบริเวณข้างห้องน้ำ พยานกับเจ้าหน้าที่อีก 4-5 คนจึงได้เข้าไปตรวจสอบพบจำเลยสะพายกระเป๋าอยู่ยืนส่งเสียง จากนั้นจึงได้ขอตรวจค้นกระเป๋าสะพายดังกล่าว เมื่อจำเลยเปิดกระเป๋าก็พบของใช้ส่วนตัวและหลอดบรรจุช็อกโกแลตยี่ห้อหนึ่ง เมื่อเปิดออกก็พบผงสีขาวในซองพลาสติกและเม็ดยาหลากสีปะปนกับเม็ดช็อกโกแลต เมื่อนำไปตรวจสอบพบเป็นสารเสพติดโคคาอีน และพยานดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ได้รู้จักกับจำเลยมาก่อน จึงเชื่อว่าได้เบิกความตามจริง ขณะที่บันทึกการจับกุมระบุว่าจำเลยให้การรับว่าในวันเกิดเหตุได้เดินทางกลับมาจากเวียดนามโดยยาเสพติดดังกล่าวเป็นยาเสพติดที่เหลือจากการเสพในประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2555 ซึ่งตามบันทึกจับกุมดังกล่าวก็เกิดขึ้นภายในวันเดียว จึงเชื่อว่ายากที่จะมีการปรุงแต่งรายละเอียดเพื่อให้จำเลยต้องรับโทษ

ส่วนที่จำเลยอ้างว่าได้รับหลอดช็อกโกแลตมาจากผู้โดยสารอื่นบนเครื่องบิน เห็นว่าเมื่อปรากฏว่าภายในหลอดมีสารเสพติดที่แพกและซุกซ่อนอยู่เป็นอย่างดี เป็นเรื่องยากที่บุคคลแปลกหน้าซึ่งจำเลยไม่รู้จักจะมอบให้ และที่อ้างว่าเมื่อถูกจับกุม จำเลยได้รับแจ้งว่าจะมีเพียงโทษปรับเท่านั้นก็พบว่า ตามบันทึกจับกุมจำเลยก็ได้ลงรายมือชื่อโดยไม่มีการโต้แย้งใดๆ ข้อกล่าวอ้างของจำเลยจึงเลื่อนลอย พยานโจทก์จึงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยนำโคคาอีนเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งมีไว้ในครอบครองโดยไมได้รับอนุญาต

จึงพิพากษาจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ มาตรา 16, 17, 68 และ 69 ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานนำเข้ายาเสพติดมาในราชอาณาจักรโดยไมได้รับอนุญาตที่เป็นบทหนักสุด จำคุก 20 ปี และปรับ 2 ล้านบาท แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เห็นความลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยเป็นเวลา 15 ปี และปรับ 1.5 ล้านบาท โดยให้นำโทษจำคุก 3 เดือนในคดีลักลอบมีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตของศาลจังหวัดมีนบุรีมานับรวมด้วย รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 15 ปี 3 เดือน และปรับ 1.5 ล้านบาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29 ให้กักขังแทนค่าปรับ

ด้านนายประเสริฐ บุญแก้ว ทนายความอดีตนางแบบสาว เปิดเผยภายหลังว่า ขณะนี้สามีของ น.ส.ชัชชญากำลังเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์สู้คดี ซึ่งเห็นว่าโทษดังกล่าวสูงเกินไป โดยในชั้นพิจารณาได้ต่อสู้ถึงเรื่องจำนวนของสารเสพติดด้วยว่า ระหว่างที่มีการตรวจค้นจับกุมมีจำนวนสารเสพติดแค่ 0.5 มิลลิกรัม ซึ่งจะอุทธรณ์ต่อสู้ประเด็นนี้ด้วย เพราะจะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนค่าปรับนั้นจำเลยยังไม่ต้องทำการชำระ เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด

ต่อมาเมื่อเวลา 17. 30 น. ศาลได้พิเคราะห์คำร้องขอปล่อยชั่วคราวนางชัชชญาหรือ “ยู่ยี่” อดีตนางแบบสาว พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 2 ล้านบาทแล้ว เห็นควรส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งสั่งประกันต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวอดีตนางแบบสาวขึ้นรถเรือนจำ ไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง บางเขน