สน.พระอาทิตย์
ภาพความไม่ธรรมดาของ “พัชรวาท” ซึ่งมี “พล.อ.ประวิทย์” พี่ชายร่วมตระกูล “วงษ์สุวรรณ” เป็นเสมือนพี่ใหญ่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความเคารพนับถือมาก ก็น่าจะสะท้อนไปถึงทิศทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยเฉพาะในการแต่งตั้ง “ผบ.ตร. คนใหม่” แทน พล.ต.อ.อดุลย์ ที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2557
ตอกย้ำความชัดเจน “สีกากี” ยุคท็อปบูตบริหารประเทศ “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปรับทัพจัดทิศสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัย
หลังจากเห็นรายชื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ทั้ง 200 คน ที่คลอดออกมา เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะสัดส่วนตำรวจที่เข้ามาเป็น สนช. นอกจาก พล.ต.อ.พัชรวาท ที่เป็น สนช. ลำดับที่ 87 เองแล้วสีกากีเกือบทั้งหมดล้วนมีความใกล้ชิด “พล.ต.อ.พัชรวาท” แทบทั้งสิ้น
พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. อดีต ส.ว. ปี 2549 นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 25 รุ่นเดียวกับพล.ต.อ.อ.พัชรวาท เป็น สนช. ลำดับที่ 93 พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อนเลิฟพัชรวาท นรต.รุ่น 25 อีกคนเข้ามาเป็น สนช. ลำดับที่ 78 พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาการ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.สองลูกน้องก้นกุฏิ ก็มีชื่อเป็น สนช. ลำดับที่ 119 และ 155
โควตาพัชรวาทในสายสีกากียังมี “พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรักษาการ ผบช.น. แม้จักรทิพย์จะเป็นเพื่อนเตรียมทหาร (ตท.) รุ่น20 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.ร.11 แต่ก็เข้าออกบ้าน “วงษ์สุวรรณ” เช้าเย็น
ส่วน “บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตต์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (อธิบดีดีเอสไอ) ที่สนิทสนมกับทหาร และ “บิ๊กเอก” พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. มือกฎหมายสอบสวน คู่แคนดิเดต ผบ.ตร. คนใหม่ เข้ามาเป็น สนช. เพราะสายอื่น
ตั้งแต่กองทัพในนาม สนช. เข้ามาบริหารประเทศ แทนรัฐบาลยิ่งลักษณ์และมีคำสั่งเด้ง “บิ๊กอู๋” พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พ้นเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รอง ผบ.ตร. เข้ามารักษาราชการแทน ผบ.ตร. ชื่อ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ก็เริ่มปรากฏขึ้นมามีบทบาทภายในกรมปทุมวันอีกครั้ง หลังจากเกษียณอายุราชการไปแบบไม่สง่างามเมื่อปี 2552
การเข้ามาทำหน้าที่รักษาการแม่ทัพใหญ่สีกากีของ พล.ต.อ.วัชรพล แทน พล.ต.อ.อดุลย์ ถูกเชื่อมโยงว่า พล.ต.อ.พัชรวาท น่าจะมีส่วนสำคัญในการเลือก “รักษาการ ผบ.ตร.” เนื่องจาก พล.ต.อ.วัชรพล เคยเป็นลูกน้องใกล้ชิด พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็เป็นน้องชาย “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ที่ปรึกษา คสช. พี่ชายใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้า คสช. และว่าที่นายกรัฐมนตรี
จากนั้นเมื่อ คสช. เริ่มปัดกวาดกรมปทุมวัน มีการอออกคำสั่งเปลี่ยนแปลง “ผู้บัญชาการ” หรือ “ผบช.” หลายเก้าอี้ที่ใกล้ชิดขั้วอำนาจเก่า เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ถูก ทักษิณ ชินวัตร ยึดครองมาหลายปีกลับมาเป็นของ “ขั้วอำนาจใหม่” นายตำรวจที่ถูกดึงเข้ามาแทน “ผบช.” หลายเก้าอี้ ต่างมีสายสัมพันธ์ที่ข้องเกี่ยวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท อีกเช่นกัน
โดยเฉพาะเก้าอี้ “ผบช.สตม.” หน่วยงานสำคัญที่ต้องดูแลเกี่ยวกับการเข้าออกประเทศ พล.ต.อ.วัชรพล มีคำสั่งเด้ง “พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล” ผบช.สตม. สายตรง “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายตำรวจที่ถูกดึงมาคุมประตูด่านประเทศ นั่งเก้าอี้ “รักษาการ ผบช.สตม.” ก็คือ “พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี” จเรตำรวจ (สบ8) ซึ่งเคยเป็น อดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท
ที่สร้างความฮือฮามากสุด คงเป็นคำสั่งแบบ ส่วนตั๊ว..ส่วนตัว ของ คสช. พล.อ.ประยุทธ์ สะบัดปากกาเซ็นคำสั่งฉบับที่ 93/2557 ยกโทษปลดออกจากราชการ พล.ต.อ.พัชรวาท
เนื้อหาคำสั่งอ้างถึงที่ศาลปกครองกลางมีคําพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 99/2554 ลงวันที่ 28 ก.พ. 2557 ให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับแจ้งมติของ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 17/2553 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2552 และครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2553 ที่ให้สั่งยกโทษปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากราชการตามคําสั่งสํานักนายกฯที่ 228/2552 ลงวันที่ 19 ต.ค. 2552 ให้เสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่คําพิพากษาถึงที่สุดนั้น
เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลปกครองกลางซึ่งถึงที่สุดข้างต้น หัวหน้า คสช. ในฐานะผู้ใช้อํานาจนายกรัฐมนตรี จึงอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 72(1) และมาตรา 105 แห่ง พ.ร.บ.ตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ประกอบกับข้อ 18(2) (ง) ข้อ 21 และข้อ 23 แห่งกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. 2557 มีคําสั่งให้ยกโทษปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากราชการตามคําสั่งสํานักนายกฯ ที่ 228/2552 ลงวันที่ 19 ต.ค. 2552 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ฉายภาพให้เห็นความไม่ธรรมดาของ “พล.ต.อ.พัชรวาท” มากที่สุด!!!
และภาพความไม่ธรรมดาของ “พัชรวาท” ซึ่งมี “พล.อ.ประวิทย์” พี่ชายร่วมตระกูล “วงษ์สุวรรณ” เป็นเสมือนพี่ใหญ่ที่พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความเคารพนับถือมาก ก็น่าจะสะท้อนไปถึงทิศทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยเฉพาะในการแต่งตั้ง “ผบ.ตร.คนใหม่” แทน พล.ต.อ.อดุลย์ ที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2557
ที่เชื่อว่า “พล.ต.อ.พัชรวาท” น่าจะมีส่วนสำคัญในการคัดสรร 5 แคนดิเดต รอง ผบ.ตร. หรือเจรตำรวจแห่งชาติ ไม่มากก็น้อย
นอกจากนี้ ในการแต่งตั้งระดับรอง ผบ.ตร.- ผบก. ทั่วประเทศ ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพิ่งมีมติอนุมัติให้เลื่อนการแต่งตั้งโยกย้ายจากเดิมที่ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2557 ไปเป็นวันที่ 30 กันยายน 2557 ก็เชื่อว่านายตำรวจที่ใกล้ชิด และอยู่ในสาย พล.ต.อ.พัชรวาท น่าจะเข้ามามีบทบาทบนเก้าอี้สำคัญภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นับจากนี้ทิศทาง “กรมปทุมวัน” จะอยู่ใต้ร่มบารมี “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรณ” อย่างไม่ต้องสงสัย