รรท.ผบ.ตร. ออกจดหมายเวียนถึง รอง ผบ.ตร. ทั้ง 5 ให้ส่งประวัติผลงานให้เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุม ก.ต.ช. ที่มีหัวหน้า คสช. นั่งเป็นประธานพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนต่อไป "เอก -สมยศ"มีลุ้นชิงดำ
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รักษาราชการแทน ผบ.ตร. มีหนังสือเวียนถึง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทั้ง 5 นายมีสิทธิได้รับการพิจารณาเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. คนต่อไป ให้จัดทำประวัติผลงานและแสดงวิสัยทัศน์ ในประเด็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนประเทศชาติ การเป็นผู้นำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอให้กับ รรท.ผบ.ตร. พิจารณาภายในวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคมนี้ เพื่อข้อมูลประกอบการพิจารณาคัดเลือกคนใดคนหนึ่ง เสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. คนต่อไป หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และให้อำนาจ ผบ.ตร. ซึ่งในตอนนี้ มี พล.ต.อ.วัชรพล เป็น รรท.ผบ.ตร. เสนอชื่อ ผบ.ตร .คนต่อไปให้ ก.ต.ช. พิจารณาแต่งตั้ง
รายงานข่าวระบุด้วยว่า คาดว่า การประชุม ก.ต.ช. เพื่อแต่งตั้ง ผบ.ตร. จะมีขึ้น ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. จะเข้าประชุมเป็นประธาน ก.ต.ช. ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ รอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) มีประวัติและผลงานดังนี้ 1. พล.ต.อ.เอก รอง ผบ.ตร. ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (นบ.รบ.รุ่น 7) จบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับที่ 1 ม.รามคำแหง ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาฯ เกษียณอายุราชการ พ.ศ. 2559 อาวุโสอันดับที่ 1 เกาะติดคดีสะเทือนขวัญบนรถไฟ และคดีการปราบพนันบอลในช่วงฟุตบอลโลก ปราบปรามแก๊งทวงหนี้ 2. พล.ต.อ.พงศพัศ รอง ผบ.ตร. ด้านป้องกันปราบปรามยาเสพติด ตท.15 นรต. รุ่น 31 จบปริญญาเอก มหาวิทยาลัยแซมฮิวสตันสเตต เกษียณอายุราชการ พ.ศ. 2559 อาวุโสอันดับ 2 เคยเป็นอดีตเลขาธิการ ป.ป.ส. กำกับดูแลงานป้องกันปราบปรามยาเสพติด เน้นการลงพื้นที่ปราบยาเสพติดในชุมชน 3 . พล.ต.อ.สมยศ รอง ผบ.ตร. ด้านความมั่นคง ตท.15 นรต. รุ่น 31 จบปริญญาโท รัฐศาสตร์การเมือง มหาวิทยาลัยปูนา ประเทศอินเดีย เกษียณอายุราชการ พ.ศ. 2558 ดูแลด้านคดีความมั่นคงคลี่คลายคดีชุมนุมทางการเมือง กวาดล้างอาวุธสงครามกำกับดูแลคดีคดีความผิดตาม ม.112 ป.อาญา และการปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ อาวุโสอันดับ 3 4. พล.ต.อ.วรพงษ์ รอง ผบ.ตร. ด้านบริหาร ตท.14 นรต. รุ่น 30 เกษียณอายุราชการ พ.ศ. 2558 อาวุโสอันดับ 4 กำกับงานบริหาร พัฒนาฐานข้อมูลตำรวจ วางระบบการทำงานของตำรวจในสถานีตำรวจให้เป็นทิศทางเดียวกัน กำกับดูแลงานแก้ปัญหาการสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง ที่มีการทุจริต และ 5. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ตท.19 นรต. รุ่น 35 เกษียณอายุราชการ พ.ศ.2562 กับดูแลงานป้องกันปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนายตำรวจทั้ง 5 นายที่ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. จตช. ซึ่งมีสิทธิได้รับการเสนอชื่อเป็นผบ.ตร. แล้ว ยังมี พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) อีกคน ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นรอง ผบ.ตร. ย้อนหลัง ตามคำพิพากษาศาลปกครอง แต่ทั้งนี้ การแต่งตั้งยังไม่มีผลสมบูรณ์จนกว่าจะได้รับการโปรดเกล้าฯ ซึ่งหากมีการโปรดเกล้าฯให้ พล.ต.อ.วุฒิ เป็นรอง ผบ.ตร. ก่อนการเลือกเสนอชื่อ ผบ.ตร. ต่อ ก.ต.ช. พล.ต.อ.วุฒิ ก็จะมีสิทธิได้รับการพิจารณาด้วย
สำหรับบรรยากาศในแวดวงข้าราชการตำรวจในช่วงนี้ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า รอง ผบ.ตร. หรือจเรตำรวจแห่งชาติ คนใดจะขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. คนต่อไป ซึ่งเป็น ผบ.ตร. คนที่ 10 ต่อจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ที่จะเกษียณอายุราชการในสิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแสดงบทบาท การออกคำสั่งการ การทำงาน การแถลง - ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน ของ รอง ผบ.ตร. แต่ละคน ที่ต่างมีสิทธิขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป ซึ่งบ้างก็วิจารณ์ว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงกำลังแข่งขันชิงผลงาน ชิงความชอบธรรม และการสร้างผลงานให้สังคมยอมรับ โดยวิพากษ์วิจารณ์กันว่าตัวเต็งว่าที่ ผบ.ตร. ตอนนี้มีเพียง 2 คน คือ พล.ต.อ.เอก และ พล.ต.อ.สมยศ โดยเหล่าข้าราชการตำรวจมองว่า พล.ต.อ.สมยศ มีความได้เปรียบ เพราะเป็นนักเรียนเตรียมทหาร และเป็น นรต. มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ พล.ต.อ.วัชรพล มากกว่า ขณะที่ พล.ต.อ.เอก เป็นนักเรียนนายร้อยอบรม แต่หากใช้เกณฑ์อาวุโสคัดเลือก พล.ต.อ.เอก ก็ได้เปรียบเพราะอาวุโสสูงกว่า ส่วนประเด็นเรื่องการทำงานนั้นรอง ผบ.ตร. ทั้งคู่ต่างก็มีผลงาน โดยเฉพาะในช่วงนี้ทั้งคู่ต่างเร่งทำผลงานก็มีการแถลงข่าว นำเสนอผลงานภายใต้การกำกับดูแลของตนเองอย่างต่อเนื่อง