นักเรียนไทยหนีภัยสู้รบจากประเทศลิเบียชุดแรก 8 ราย เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดยสายการบินเอมิเรตส์ และมีเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารให้การต้อนรับ ระบุมีแรงงานไทยประสงเดินทางกลับอีกราว 800 คน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (2 ส.ค.) กลุ่มนักศึกษาไทยอพยพหนีสงคราม จำนวน 8 คน จากกรุงตริโปลี ประเทศลิเบีย เดินทางถึงไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK384 โดยมี พล.ท.หฤษณ์ พุ่มหิรัญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นตัวผู้แทน ร่วมกับ นายประสิทธิพร เวชประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล ให้การต้อนรับ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดย พล.ท.หฤษณ์ พุ่มหิรัญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ให้เป็นผู้แทนร่วมกับกรมการกงสุล ในการต้อนรับคนไทยที่อพยพมาจากลิเบีย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีความห่วงใยในความปลอดภัยของคนไทย จึงได้ให้เอกอัครราชทูตประจำกรุงตริโปลี วางแผนในการช่วยเหลือคนไทย 3 แห่งในลิเบีย และตูนิเชีย โดยให้กองทัพอากาศเตรียมอากาศยานลำเลียงไว้ (C-130) ไว้หากมีสถานการณ์เร่งด่วน โดยตอนนี้ทราบว่ามีแรงงานไทยประสงค์เดินทางกลับราว 800 คน และจะมีเดินทางมาอีกครั้งราว 80 คน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง
สำหรับนักศึกษาไทยกลุ่มนี้ถือเป็นคนไทยกลุ่มแรกที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี ได้จัดส่งกลับประเทศ โดยเดินทางผ่านกรุงตริโปลี ผ่านชายแดนลิเบีย - ตูนิเซีย ด้วยรถยนต์เข้าประเทศตูนิเซีย และเดินทางไปกรุงตูนิส ก่อนเดินทางกลับด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 384 และเมื่อเดินทางมาถึงทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินการจัดส่งและมอบค่าเดินทางให้นักศึกษากลับภูมิลำเนาต่อไป
นายมานะ เรืองพจน์ อายุ 20 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เดินทางไปเรียนภาษาที่มหาวิทยาลัยกุลลียะดะวะห์ กรุงตริโปลี ได้เพียง 6 เดือน โดยไปเรียนภาษาก่อน ช่วงระหว่างที่เกิดสงครามกลางเมืองนั้น อยู่แต่ในมหาวิทยาลัย และปฏิบัติตัวตามที่เจ้าหน้าที่สถานทูตแนะนำ ซึ่งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยก็ปลอดภัย โดยตนได้ทำสัญญากับทางมหาวิทยาลัยไว้ว่าหากเหตุการณ์สงบแล้วจะเดินทางกลับไปศึกษาต่อ โดยที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีนักศึกษาไทย อยู่ 11 คน ที่เหลืออีก 3 คน เป็นรุ่นพี่ที่จบการศึกษาแล้ว ยังไม่กลับขอรอใบประกาศนียบัตรก่อน
ส่วน นายอิลวา นุดดิน อาย 19 ปี ชาว จ.นราธิวาส ระบุว่า ไปเรียนภาษาได้เพียง 6 เดือน ก็เกิดสงครามรู้สึกกลัวมาก เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นใกล้กับมหาวิทยาลัยที่อาศัย และทางบ้านก็เป็นห่วงอยากให้เดินทางกลับระหว่างที่เกิดเหตุก็ติดต่อทางบ้านผ่านทางอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เมื่อสถานทูตแนะนำให้กลับประเทศก่อนก็เลยตัดสินใจกลับ ส่วนหลังจากนี้จะกลับไปศึกษาต่ออีกหรือไม่ค่อยปรึกษากับที่บ้านอีกครั้ง
สำหรับนักศึกษาไทยทั้ง 8 คน ที่เดินทางมาประกอบด้วย นายมานะ เรืองพจน์, นายอิลวา นุดดิน, นายอาหามะ เจ๊ะมะ, นายอามินมุดดิน มามะ, นายอัฟดอล ปันนพปะ, นายคณิต วงศ์สันต์ และ นายอาลี ยีมาวิละ
