“หลวงปู่พุทธะอิสระ” พาชาวนาไกล่เกลี่ยเงินจำนำข้าวสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”

“หลวงปู่พุทธะอิสระ” นำชาวนาเจรจาไกล่เกลี่ยเงินจำนำข้าวสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ไม่สำเร็จ เหตุ ธ.ก.ส.อ้างมีมาตรการพักชำระหนี้และจ่ายเงินไปบ้างแล้ว ขณะชาวนายืนยันจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดไกล่เกลี่ย ในคดีดำ ที่ 597/2557 และ 739/2557 ที่นายทน ทองมาก กับพวกรวม 202 คน ชาวนาจังหวัดภาคกลาง เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (กขช.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายยุคล ลิ้มแหลมทอง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายยรรยง พวงราช ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้า รวม 9 คน เป็นจำเลยฐานผิดสัญญาจำนำข้าว เรียกค่าเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท

โดยในวันนี้ หลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตแกนนำ กปปส.ได้พาชาวนาที่เป็นโจทก์รวม 51 คนจาก 202 คน มาศาลเพื่อร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 ก่อนหน้านี้จำเลยที่ 2, 4, 5, 6, 7 ขาดนัดยื่นคำให้การ และขอยื่นคำให้การในภายหลัง ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต ทั้งนี้การเจรจาไกล่เกลี่ยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้

หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวว่า การเจรจาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น ทาง ธ.ก.ส.ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว อ้างว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการจ่ายเงินให้ชาวนาไปบ้างแล้วและดำเนินมาตรการพักหนี้ให้กับชาวนาที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.ซึ่งได้ทำตามหน้าที่อย่างเต็มความสามารถแล้ว ดังนั้นการไกล่เกลี่ยคดีวันนี้ถือว่าทำไม่สำเร็จ โดยชาวนายืนยันที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ด้านนายพายัพ เฮ้าประมงค์ ทนายความ กล่าวว่า สำหรับเหตุผลที่ชาวนาไม่สามารถยอมความในคดีดังกล่าวได้ เนื่องจากช่วงเวลาที่ชาวนาไม่ได้รับเงินจำนำข้าวล่วงเลยมาหลายเดือน ชาวนาส่วนใหญ่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบที่มีการคิดดอกเบี้ยสูงร้อยละ 20-30 ต่อเดือน หลวงปู่พุทธะอิสระจึงได้ยื่นข้อเสนอให้ ธ.ก.ส.รับชำระหนี้นอกระบบของชาวนาแทนทั้งหมด เพื่อให้ชาวนาได้ชำระค่าดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้คดีนี้ยุติลงได้ด้วยดี โดยทางตัวแทน ธ.ก.ส.จะยืนยันนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม

ทั้งนี้ ศาลแพ่งกำหนดนัดพิจารณาคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 18 ก.ย. 2557 ส่วนเรื่องหมายจับหลวงปู่พุทธะอิสระข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งนั้น ยืนยันว่าที่ผ่านมาศาลอาญาได้ออกหมายจับหลวงปู่พุทธะอิสระในข้อร่วมกันเป็นกบฏต่อแผ่นดินไปแล้ว ซึ่งเป็นความผิดข้อหาที่ร้ายแรงกว่า จึงให้ยกเลิกหมายจับในข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งไปโดยปริยาย