ศาลอาญาไกล่เกลี่ย “ตระกูลธรรมวัฒนะ” ถอนฟ้องแพ่งและอาญา 48 คดี ยุติปมขัดแย้งมรดกยาวนาน 14 ปี ผู้พิพากษาเผยพี่น้องได้ขายหุ้นตลาดยิ่งเจริญมรดกของครอบครัว และแบ่งผลประโยชน์กันลงตัวแล้ว
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ศูนย์ประนอมข้อพิพาท ชั้น 7 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไกล่เกลี่ย คดีหมายเลขดำ ที่ อ.1628/2555 ที่นายวิกรม ธรรมวัฒนะ บุตรชายเทอดชัย ธรรมวัฒนะ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.คนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ นางนฤมล มังกรพานิชย์ และนายนรินทร์ วงศ์ไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานเบิกความเท็จ นำสืบหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ จากกรณีเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2555 น.ส.คนึงนิตย์กับพวกเบิกความเท็จต่อศาลแพ่ง ในประเด็นสำคัญทำให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้นายวิกรมนำหุ้นพิพาทของบริษัท สุวพีร์ ธรรมวัฒนะ จำกัด ไปลงคะแนนเสียงในการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นไว้ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ทำให้นายวิกรมได้รับความเสียหาย
โดยก่อนหน้านี้ศาลได้ให้ทายาทตระกูลธรรมวัฒนะเข้าเจรจาประนอมข้อพิพาทกัน มีคดีที่ฟ้องร้องค้างอยู่ในระหว่างการพิจารณาทั้งที่ศาลอาญา ศาลแพ่ง และศาลแขวงพระนครเหนือ และอื่นๆ รวม 48 คดี และมีการเจรจาไกล่เกลี่ยตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการเจรจาถึง 6 ครั้งจนได้ข้อยุติและพี่น้องทั้งสองฝ่ายยอมทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในวันนี้ ซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายจึงมีการถอนฟ้องกันทุกคดีทั้งทางอาญาและแพ่ง และจะนำข้อตกลงที่ทำร่วมกันในวันนี้ไปใช้เพื่อประกอบในการถอนฟ้องคดีทั้ง 48 คดี
ในวันนี้มีทายาทตะกูลธรรมวัฒนะเดินทางมาประนอมข้อพิพาทที่ศาลอาญา เช่น นายปริญญา ธรรมวัฒนะ นางนฤมล มังกรพานิชย์ และ น.ส.คนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ เข้าร่วมการไกล่เกลี่ย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
นายปริญญากล่าวภายหลังการประนอมข้อพิพาทว่า ขอขอบคุณศาลที่แนะนำให้ทางครอบครัวมาไกล่เกลี่ยคดีกันจนได้ข้อตกลงที่กันดีทั้งสองฝ่าย สำหรับคดีความเกิดขึ้นตั้งแต่นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ พี่ชาย เสียชีวิต เป็นเวลากว่า14 ปีแล้วเกิดคดีความฟ้องร้องกันขึ้นในครอบครัวทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา รวมถึงคดีที่ฟ้องร้องกับนายนพดล ธรรมวัฒนะ พี่ชายด้วย รวมทั้งสิ้น 48 คดี และในวันนี้สามารถตกลงและไกล่เกลี่ยกันได้ทั้งหมด ถือเป็นเรื่องที่ตนไม่คาดคิด
นายปริญญายังเปิดเผยอีกว่า ได้ขายหุ้นและกิจการทั้งหมดให้แก่นางนฤมล พี่สาว และโดยแนวทางการบริหารธุรกิจตลาดยิ่งเจริญจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับนางนฤมล และน.ส.คนึงนิตย์จะบริหารต่อไป ส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีวันนี้ที่สามารถเคลียร์เรื่องและถอนฟ้องคดีทั้งหมดได้ หลังจากนี้ตนก็จะวางมือและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายต่อไป ส่วนเรื่องธุรกิจให้ถือเป็นหน้าที่ของรุ่นลูกต่อไป การประนอมในวันนี้ถือว่าเป็นการปิดตำนานคดีที่ต่อสู้กันมายาวนานกว่า 14 ปี ส่วนมูลค่าซื้อขายหุ้นที่ตกลงกันได้ตนไม่ขอเปิดเผย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือครอบครัวสงบสุข
ด้านนางนฤมลเปิดเผยว่า ขอขอบคุณศาลที่ช่วยไกล่เกลี่ยคดีจนสามารถตกลงกันได้ สำหรับธุรกิจของครอบครัว เมื่อประกอบกิจการมาระยะหนึ่งก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา แต่อยู่ที่ว่าจะสามารถยอมรับและเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ และขอให้คดีของครอบครัวตระกูลธรรมวัฒนะเป็นตัวอย่าง เมื่อพี่น้องมีปัญหาต้องหันหน้าคุยกัน และหาทางแก้ไขเพื่อให้ความบอบช้ำและความเสียหายเบาบางลง โดยในวันนี้คดีทั้งหมดที่ประนอมกันมีทั้งสิ้น 48 คดี แบ่งเป็นคดีแพ่ง 43 คดี ส่วนอีก 5 คดีเป็นคดีอาญาที่อยู่ในศาลแขวงพระนครเหนือ และศาลอาญา
นายเจษฎา ยวงทอง ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา ในฐานะผู้ประนอมข้อพิพาทกล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากมีการฟ้องร้องต่อศาลอาญาในข้อหาพูดเท็จต่อการฟ้องแพ่งในคดีมรดก โดยการประนีประนอมนี้ถือว่ายุ่งยากที่สุด แต่ทั้งสองฝ่ายมีการเจรจาจนตกลงยอมทำสัญญากันได้ซึ่งทรัพย์สินก็มีการขายขาด 100 เปอร์เซ็นต์ และแบ่งผลประโยชน์กัน และเมื่อทำสัญญาประนีประนอมกันแล้วทั้งสองฝ่ายก็จะต้องปฏิบัติตามข้อสัญญาให้ครบถ้วนทุกข้อ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาในภายหลัง อีกฝ่ายหนึ่งก็สามารถที่จะยื่นเรื่องต่อศาลแพ่งให้มีการบังคับคดีตามข้อปฏิบัติที่ตกลงกันในสัญญาประนีประนอมดังกล่าว ทั้งนี้บรรยากาศในการประนีประนอมที่ผ่านมาแต่ละฝ่ายไม่ยอมเผชิญหน้ากัน ตนจึงหาจุดร่วมความต้องการของแต่ละฝ่ายโดยอาศัยความสัมพันธ์ของพี่น้องจนสามารถเผชิญหน้าและประนีประนอมกันได้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการเจรจาสำเร็จทั้งสองฝ่ายก็มีการจับมือและให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ที่ผ่านมาพี่น้องมีปัญหาปมขัดแย้งมรดกของตระกูลธรรมวัฒนะนานกว่า 14 ปี หลังจากที่นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ พี่ชายคนโตได้เสียชีวิตไป
อ่าน : ย้อนรอยคดีมรดกเลือด"ธรรมวัฒนะ"