ตราด - ทหารเข้าตรวจสอบอาวุธสงครามในบ้านและสวนผลไม้ของ“ณรงค์ กระจ่างกลาง”ผู้ต้องหายิงอาสาสมัครนาวิกโยธินที่ตราด พบปืน เอเค. 2 กระบอก กระสุนกว่า 1 พันนัด คาดโยงคดีบึ้ม กปปส.ที่ตลาดยิ่งเจริญ ส่วนเจ้าตัวหนีกบดานภาคอีสานแล้ว
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (29 พ.ค.) ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 (บ่อไร่) นำโดย น.อ.สุบรร ดีนอก หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ทั้งภายในสวน และภายในบ้านของนายณรงค์ กระจ่างกลาง เลขที่ 25 หมู่ 3 ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด พบอาวุธสงคราม 2 กระบอก เป็นอาวุธปืนอาก้า และกระสุนปืนอีกกว่า 1,000 นัด
นอกจากนี้ พล.ร.ท.สนธยา น้อยฉายา ผบ.กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) พล.ร.ต.นพพร วุฒิรณฤทธิ์ รอง ผบ.กปช.จต. ยังได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบอาวุธด้วย
ต่อมา เวลา 09.45 น. นายพยัคฆพันธ์ โพธิแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้เดินทางไปยังที่ตรวจค้นพบอาวุธสงครามดังกล่าว จากนั้นได้ฟังรายงานข้อมูลจากฝ่ายทหาร คือ น.อ.เลอศักดิ์ คชนันท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ก่อนเดินทางออกมา
ต่อมา พ.ต.อ.วุฒิชัย อนันต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พ.ต.อ.จีระวุฒิ ตัณฑะศรี ผกก.เขาสมิง และตำรวจพิสูจน์หลักฐานตราด ได้เดินทางมาตรวจสอบหลักฐาน และพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์
พ.ต.อ.จิระวุฒิ กล่าวว่า ทหารพราน และทหารนาวิกโยธินได้นำกังลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยในทุกตารางนิ้วตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ และในช่วงเวลา 09.00 น. ทางทหารนาวิกโยธินได้พบอาวุธสงคราม ประกอบด้วย ปืนอาก้า 2 กระบอก กระสุนปืนกว่า 1,000 นัด พร้อมอุปกรณ์จำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งพบในโค่นต้นไม้ในสวยเงาะ และมังคุด และฝังดินไว้รวบรวมได้ตามจำนวนดังกล่าว
สำหรับอาวุธปืน และกระสุนจำนวนนี้ทางฝ่ายทหารจะได้นำไปตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนที่ใช้ในการยิงกลุ่ม กปปส.ตราด ที่ชุมนุมกันที่ตลาดยิ่งเจริญ ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 หรือไม่ และก่อนหน้านี้ ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 ทหารนาวิกโยธิน และทหารพรานก็ได้เข้าทำการปิดล้อม และจับกุมนายณรงค์ กระจ่างกลาง และพวกอีก 2 คน แต่นายณรงค์ กระจ่างกลาง หลบหนีไปได้ และยิงทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย
จากนั้นได้มีการค้นหาอาวุธสงครามในสวนผลไม้ที่มีพื้นที่กว่า 30 ไร่ และเข้าค้นบ้าน 2 หลังจนสามารถพบอาวุธสงครามได้ดังกล่าว
ต่อมา เวลา 15.00 น.วันเดียวกัน พ.อ.ธนาดล พูลสาธรกุล หัวหน้ากองยุทธการมณฑลทหารบกที่ 14 ชลบุรี ได้เดินทางมาในพื้นที่ และเข้าตรวจสอบอาวุธปืน และกระสุนปืน พร้อมเครื่องระเบิด โดยให้สื่อมวลชนเดินทางเข้าไปบันทึกภาพได้ แต่ไม่ให้มีการสัมภาษณ์ พร้อมกับขอให้ผู้สื่อข่าวอย่าเขียนข่าวโยงไปว่าเป็นคนเสื้อแดงด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งแต่เพียงว่า อาวุธสงครามทั้งหมดได้จากการตรวจค้นในสวนผลไม้ และบ้านทั้ง 2 หลัง
ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตราด 3 นาย ได้เข้าเก็บข้อมูลอยู่ และพบว่าอาวุธบางส่วน เช่น ปืนอาก้า และกระสุนปืน รวมทั้งปลอกมีส่วนเชื่อมโยงกับการปาระเบิด และใช้อาวุธปืนยิงกลุ่ม กปปส.ตราด ที่ตลาดยิ่งเจริญ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 อย่างไรก็ตาม จะต้องนำไปเปรียบเทียบข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทหารนาวิกโยธินจากกองกำลังป้องกันจันทบุรี-ตราด นำโดย พล.ร.ท.สนธยา น้อยฉายา ผบ.กปช.จต.ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายนวม อำไพ 1 ใน 2 คนร้ายที่ถูกจับกุมได้ เนื่องจากนายนวม อำไพ ได้ยอมรับสารภาพต่อทางฝ่ายทหารนาวิกโยธินว่า เป็นผู้ร่วมกันก่อเหตุที่ตลาดยิ่งเจริญ และรู้ว่ายังมีอาวุธสงครามอยู่ในพื้นที่จำนวนหนึ่ง ทหารนาวิกโยธินจึงได้นำตัวมาค้นอาวุธในพื้นที่จึงได้อาวุธสงครามดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้นำตัวนายวัชระ กระจ่างกลาง ที่ถูกจับได้ที่โรงแรมสวีทอินน์ ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มาชี้จุดฝังอาวุธด้วย
สำหรับอาวุธสงคราม ประกอบด้วย 1.เอเค 47 จำนวน 2 กระบอก ฝังดินอยู่ พร้อมกระสุน 517 นัด 2.แมกกาซีน 3 อัน 3.หัวนอต 4.ลูกตะกั่ว 5.ท่อพีวีซี 6.ลูกซ้อมยิง 11 มม.จำนวน 18 นัด 7.ถุงมือ 8.เปลนอน 9.เสื่อ 10 เต็นท์นอน 11.กระเป๋าเป้ 12.รองเท้าเดินป่า 13.เอกสารข้อมูลผู้ต้องหา 14.เสื้อผ้าผู้ต้องหา 15.บัตรประจำตัวผู้ต้องหา 16.เครื่องใช้ส่วนตัว 18.ซีดี ทั้งนี้ มีอุปกรณ์ที่สามารถประกอบเป็นระเบิดแบบจุดได้ด้วย
ต่อมา เวลา 15.45 น. พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางมาตรวจสอบในพื้นที่ และสั่งการให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตราดเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และดีเอ็นเอเพื่อตรวจสอบ ซึ่งจะสามารถใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีได้
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า อาวุธสงครามที่จับกุมได้ขณะนี้สามารถเชื่อมโยงกับคดีที่ตลาดยิ่งเจริญได้ แต่ต้องมีการพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อน ทั้งนี้ รรท.ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้สั่งการให้คลี่คลายคดีนี้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายจับนายณรงค์ กระจ่างกลาง แล้ว และทราบว่าอยู่ในประเทศไทย และกบดานอยู่ในจังหวัดภาคอีสาน ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการติดตามต่อไป
