xs
xsm
sm
md
lg

กรมศุลฯ จับสองผู้ต้องหาลักลอบขนงาช้างมูลค่ากว่า 9 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รองอธิบดีกรมศุลฯ จับ 2 ผู้ต้องหาลักลอบขนงาช้าง พร้อมของกลางงาช้าง จำนวน 18 ชิ้น น้ำหนักรวม 15 กิโลกรัม และผลิตภัณฑ์จากงาช้างจำนวน 587 ชิ้น น้ำหนักรวม 45 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 9 ล้านบาท



เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (28 ก.ค.) ที่กรมศุลกากร นายไพศาล ชื่นจิตร รองอธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายเรือง เตี๋ยน ฟง อายุ 62 ปี สัญชาติเวียดนาม นางเฉิน จื้อ เหวิน อายุ 23 ปี สัญชาติจีน พร้อมของกลางงาช้าง จำนวน 18 ชิ้น น้ำหนักรวม 15 กิโลกรัม และผลิตภัณฑ์ทำจากงาช้าง จำนวน 587 ชิ้น น้ำหนักรวม 45 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 9 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้เมื่อเวลา 18.30 น.ของวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายไพศาลกล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อจากหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ตั้งด่านตรวจสัตว์ป่า ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจค้นจับกุมผู้ลักลอบนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่าน ซึ่งสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทั่งพบกระเป๋าสัมภาระต้องสงสัยจำนวน 4 ใบของผู้โดยสารที่จะเปลี่ยนเครื่องปลายทางไปยังเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ 909 หมายเลขบัตรติดกระเป๋าเลขที่ อีที 135617, อีที 135618 ระบุชื่อนายเรือง เตี๋ยน ฟง และหมายเลขบัตรติดกระเป๋าเลขที่ อีที 13514, อีที 135616 ระบุชื่อนางเฉิน จื้อ เหวิน ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น.ที่บริเวณทางออกประตูขึ้นเครื่อง อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 1 ก่อนที่ผู้โดยสารจะเปลี่ยนเครื่องจากกรุงเทพมหานครไปยังประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สายการบินดังกล่าวเพื่อเชิญตัวผู้โดยสารทั้งสองมาทำการตรวจค้นอย่างละเอียด

จากการตรวจค้นพบงาช้าง จำนวน 18 ชิ้น น้ำหนักรวม 15 กิโลกรัม และผลิตภัณฑ์ทำจากงาช้างจำนวน 587 ชิ้น น้ำหนักรวม 45กิโลกรัม ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารทั้งสอง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะส่งของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษายังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต่อไป

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ตนทั้งสองไม่มีอาชีพ แต่ได้เดินทางไปเยี่ยมญาติที่ประเทศไอเวอร์รีโคสต์ จากนั้นได้มีชายชาวเอเชียมาติดต่อว่าจ้างให้นำสิ่งของดังกล่าวซึ่งบรรจุอยุ่ในกระเป๋าให้ไปส่งที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา โดยถ้าเป็นชายจะให้ค่าจ้าง 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 20,000 บาท หากเป็นหญิงจะให้ค่าจ้าง 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10,000 บาท

นายไพศาลกล่าวว่า จากการตรวจสอบเส้นทางของผู้ต้องหาทั้งสองพบว่าได้ออกเดินทางจากเมืองอาบีจาน ประเทศไอเวอร์รีโคสต์ มายังเมืองแอบดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ก่อนเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางมายังกรุงเทพมหานคร เพื่อเปลี่ยนเครื่องไปยังเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา แต่ถูกจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งประเทศไทยถูกมองจากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาว่าเป็นประเทศที่ค้าขายงาช้างและสัตว์ป่า อีกทั้งถูกใช้เป็นทางผ่านในการลักลอบค้าสัตว์ป่า อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสนามบินขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อมต่อไปยังหลายประเทศทั่วโลก ทำให้กลุ่มผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าเลือกใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ผลของการจับกุมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่า เช่น งาช้าง นอแรด ปะการัง ได้ทั้งหมด 17 ราย มูลค่ากว่า 43 ล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเป็นของที่มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ เป็นของต้องห้ามต้องกำกัด ในการนำเข้า หรือนำผ่าน จึงเป็นของที่ไม่ได้รับอนุญาตนำเข้า หรือนำผ่าน จึงเป็นของอันพึงต้องริบตามกฎหมาย การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตร27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2467 ประกอบกับมาตรา 16 และมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติดรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
































กำลังโหลดความคิดเห็น