ราชบุรี - รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่ราชบุรี ตรวจสุขภาพลูกเสือโคร่งของกลาง 7 ตัว ที่สถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง อำเภอจอมบึง หลังยึดได้จากผู้ลักลอบค้า
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (7 มิ.ย.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาตรวจเยี่ยมลูกเสือโคร่งสัตว์ป่าของกลางที่สถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี หลังได้มีการจับกุมเมื่อวานนี้ 3 ตัว ที่ด่านตรวจบ้านพระ จ.ชุมพร และที่ จ.อุดรธานี อีก 4 ตัว รวมเป็น 7 ตัว ที่ส่งมาดูแลที่สถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ กล่าวว่า การตรวจสุขภาพสัตว์ป่าของกลาง เฉพาะเสือโคร่ง ช่วงระยะ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการจับกุมผู้ลักลอบผู้ค้าลูกเสือโคร่งได้ 2 ราย รายแรกเป็นลูกเสือโคร่ง จำนวน 4 ตัว ได้จากการแอบลักลอบผ่านไปทางจังหวัดอุดรธานี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจดักจับได้ตามเส้นทางหลวง คาดว่าคงจะมีการลักลอบนำข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนรายที่ 2 เมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจร่วมของทหาร และตำรวจจังหวัดชุมพร สามารถจับกุมผู้แอบลักลอบค้าลูกเสือโคร่งได้อีกเป็นผู้หญิงพร้อมรถ พบลูกเสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว อายุประมาณ 1 เดือน ทั้ง 2 ส่วนนี้รวม 7 ตัว ได้มีการนำมาตรวจสุขภาพเบื้องต้นดูว่าเสือโคร่งเหล่านี้มีสุขภาพดีหรือไม่
โดยชุดแรกลูกเสือ 4 ตัวจากอุดรธานี มีสุขภาพดี ส่วนอีก 3 ตัว ที่สุขภาพอยู่ในระดับไม่สมบูรณ์ ดูลักษณะยังผอมอยู่น่าเกี่ยวข้องเรื่องของนม ทั้ง 2 ส่วนนี้จะได้ดูแลจนกว่าจะโต และอาจจะแยกไปดูแลตามสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าต่างๆ ด้วย
ส่วนสถานการณ์การลักลอบค้าเสือโคร่งในปัจจุบัน ซึ่งได้หยุดเงียบไปเกือบปี เนื่องจากตอนนี้มีการจับกุมอย่างเข้มงวด ที่ผ่านมา มีการทำฐานข้อมูลลายเสือโคร่งจาก 20 สวนสัตว์สาธารณะทั่วประเทศประมาณ 1,200 ตัว ทำลวดลายเสือโคร่ง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม่พยายามที่จะขายเสือโคร่งตัวใหญ่ แต่เปลี่ยนมาเป็นขายลูกเสือโคร่งแทน เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหานี้
ทางกรมอุทยานแห่งชาติ จะดำเนินการขอความร่วมมือจากสวนสัตว์สาธารณะ 20 แห่งทั่วประเทศในการจัดทำฐานข้อมูลทางด้านพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ หลังจากนี้ ถ้าหากได้ลูกเสือโคร่งมาแล้ว จะนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของสวนสัตว์แห่งไหนมีความคล้ายคลึงกัน หรือตรงกันก็จะสามารถที่จะนำกลับไปยืนยันว่าเสือโคร่งมีการแอบลักลอบจากที่ใด และสามารถดำเนินการจับกุมได้อย่างเข้มงวด
ส่วนที่ 2 ที่ได้มาดูสภาพปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย ปัจจุบัน นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มาก จึงสั่งการให้ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินการแก้ไขปัญหา และเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสัตว์ป่าที่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยให้นำระบบลาดตระเวนแผนใหม่ที่มีการดำเนินการอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ให้ทำงานอย่างเข้มข้น และต่อเนื่องขึ้น
โดยเฉพาะที่ทุกคนมองว่าเป็นช่องว่างของการบริหารประเทศ ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้ดำเนินการลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสวนสัตว์สาธารณะ โดยเฉพาะที่มีเสืออย่างต่อเนื่องด้วยพร้อมจัดทำเรื่องดีเอ็นเอไปพร้อมๆ กัน
นอกจากนี้ มีการประสานงานภาคประชาชน โดยการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชนอย่างเต็มที่ มีการโทร.แจ้งสายด่วน 1362 แต่ละปีมีคดีที่เกี่ยวข้องการค้าการล่าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายประมาณ 500-700 คดี
ล่าสุด ปัจจุบันนี้อีกประมาณ 300 คดี ที่ไปเดินตรวจจับอย่างต่อเนื่องที่บริเวณสวนจตุจักร ตามตลาดนัดต่างๆ ได้ตัวผู้ต้องหามาตลอดในช่วงนี้ อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือ เรื่องกฎหมายซึ่งอาจจะลงโทษไม่รุนแรง ช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปการทำงานระบบราชการ ทางกรมอุทยานฯ ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการแก้ไขตัวมาตราต่างๆ โดยเฉพาะบทลงโทษให้สูงขึ้นด้วย