xs
xsm
sm
md
lg

ไอ้หื่นสองแถวฉุด นศ.สาว จนมุม อ้างอารมณ์ชั่ววูบ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายศตวรรษ แก้วสุขโข พนักงานขับรถสองแถวประจำทาง สาย 1269 ผู้ต้องหา
รวบไอ้หื่นโชเฟอร์หนุ่มสองแถว วิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างหัวตะเข้ - ฮอนด้า อนาจาร นศ.สาว หลังหนีไปกบดานถึงเพชรบูรณ์ หลังก่อคดีขับรถออกนอกเส้นทาง ก่อนเหยื่อตัดสินใจกระโดดรถหนี แต่ยังตามมายื้อยุดฉุดกระชากจนกระดุมเสื้อขาด โชคดีมีพลเมืองดีผ่านมาเห็นจึงเข้าช่วยเหลือได้ทัน

วันนี้ (27 ก.ค.) ที่ สน.ลำผักชี พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (ผบก.น.3) พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 พ.ต.ท.คำแหง กัณฑวงศ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.นฤดล พุ่มพวง สว.สส. พร้อมด้วย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี แถลงการจับกุมตัว นายศตวรรษ หรือ มิ้น แก้วสุขโข อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลมีนบุรี ในข้อหากระทำอนาจาร หน่วงเหนี่ยวกักขัง และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ กรณีถูกล่าวหาพยายามข่มขืนนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง เหตุเกิดบริเวณทางลงสะพานคลองปลาเน่า แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์


พ.ต.อ.เอก กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลำผักชี ได้รับแจ้งจากนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยดัง ว่า ถูกคนขับรถสองแถวแดงสาย 1269 วิ่งระหว่าง หัวตะเข้ - ฮอนด้า ทะเบียน ถอ 3787 กทม. ขับรถออกนอกเส้นทาง ผู้เสียหายจึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถดังกล่าวช่วงทางลงสะพานคลองปลาเน่า จนได้รับบาดเจ็บจากนั้นคนขับสองแถวได้ลงมาจากรถ ก่อนใช้มือจับไปที่หน้าอก จากนั้นได้มีการฉุดดึงกัน แต่มีพลเมืองดึขับรถผ่านมาจึงเข้าช่วยเหลือ นายศตวรรษ จึงได้ขับรถได้เร่งรถขับหลบหนีไป

จากการสอบสวนพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ และข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน ทราบว่า นายศตวรรษ แก้วสุขโข อายุ 21 ปี เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว และได้เดินทางไปที่บ้านญาติใน จ.เพชรบูรณ์ จึงได้ประสานกับญาติของนายศตวรรษ ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ลำผักชี ทั้งนี้ จากการสอบประวัติพบว่า นายศตวรรษ เคยต้องคดีเสพยาเสพติดในท้องที่สน.ฉลองกรุง เมื่อปี 2554


ด้าน นายศตวรรษ ยังให้การวกวน โดยระบุว่า ตนเองไม่มีเจตนาที่จะข่มขืนผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าตั้งใจขับรถออกนอกเส้นทาง แต่หวังเพียงลวนลามผู้เสียหายเท่านั้น ซึ่งที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ นอกจากนี้ ยอมรับว่า ได้ใช้มือจับหน้าอกผู้เสียหายจริงในช่วงที่มีการฉุดรั้งกัน ก่อนที่จะมีพลเมืองดีมาเห็น ทั้งนี้ ตนไม่ได้ยินเสียงกดกริ่งของผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่เมื่อได้ยินเสียงกระโดดลงจากรถ ตนก็ได้จอดรถแล้วถอยรถกลับมาจนมีการฉุดรั้งกัน ส่วนที่ผู้เสียหายระบุว่าตนบอกว่าจะบีบคอให้ตายนั้น ยืนยันว่าตอนนั้นเมื่อวนรถกลับมาดูผู้เสียหายที่กระโดดรถ ตนพูดว่าดีนะที่ไม่ตาย


ส่วน น.ส.ทัดดาว ทองมา อายุ 45 ปี ญาติผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ในส่วนของทางญาติติดใจคดีความ 2 ประเด็น คือ ทางผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวเองไม่ได้ถูกจับกุมแต่อย่างใด ซึ่งทางญาติได้พามามอบตัวเอง แต่ทางเจ้าหน้าที่ลงบันทึกว่าติดตามจับกุมตัว เกรงว่าจะมีผลทางคดี และการประกันตัว และในส่วนของคดีความนั้น ตนคิดว่าอาจจะมีเงื่อนงำ เนื่องจากทางพ่อของผู้เสียหายนั้นเคยมีปัญหาเรื่องการขับรถสองแถวทับเส้นทางกันมาก่อนเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้บ้านผู้เสียหายกับน้องตนก็ใกล้กันอีกด้วย

ทาง น.ส.ปนัดดา วงค์นิ่ม พลเมืองดีที่เข้าช่วยเหลือ กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุประมาณ 21.40 น. ตนกับเพื่อนขับจักรยานยนต์ผ่านตรงจุดเกิดเหตุพบว่ามีรถสองแถวคันดังกล่าวจอดอยู่แล้วมีผู้หญิงกำลังต่อสู้ยื้อยุดกับผู้ชายที่คาดว่าน่าจะเป็นคนขับรถตอนแรกตนยังไม่คิดอะไร นึกว่าเป็นเรื่องในครอบครัว แต่เมื่อขับรถผ่านไปไม่ไกลมากนัก จึงตัดสินในวนรถกลับมา ซึ่งจังหวะที่กำลังวนรถนั้นรถสองแถวก็ได้เร่งเครื่องหลบหนีไปก่อนที่ตนจะถึง ต่อมาตนได้พาผู้เสียหายไปขอความช่วยเหลือจากหทารที่ตั้งด่านอยู่จุดใกล้ๆ และเข้าแจ้งความ

น.ส.ปนัดดา กล่าวว่า จากนั้นได้สอบถามผู้เสียหายซึ่งอยู่ในสภาพกระโปรงขาด กระดุมเสื้อหลุดมาถึงหน้าอก ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าตนเองโดนฉุดมา พร้อมบอกว่าตนเองจะลงตรงแยกวัดทิพพาวาส แต่รถไม่หยุด กดกริ่งหลายครั้งแล้วก็ไม่หยุดแล้วจึงตัดสินใจกระโดดลง จากนั้นคนขับก็พยายามจะฉุดให้เข้าไปนั่งด้านหน้าคนขับ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากระทำอนาจารบุคคลที่อายุมากกว่า 15 ปี, พาไปซึ่งเพื่อการกระทำอนาจาร, บังคับขู่เข็ญ, กักขังหน่วงเหนี่ยว ก่อนจะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ทั้งนี้ จะนำผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรี ฝากขัง ในวันจันทร์ที่ 28 ก.ค. โดยในชั้นสอบสวนทางเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น