กรมศุลฯ จับหมูเถื่อนแช่เเข็ง-เครื่องสำอางหนีภาษี

กรมศุลกากรแถลงข่าวจับกุม 2 คดี หมูเถื่อนแช่เเข็ง-เครื่องสำอางหนีภาษี พร้อมของกลางสุกรแช่แข็งจำนวน 400 ตัว มูลค่ากว่า 4 แสนบาท และเครื่องสำอางที่ลักลอบสนำเข้าไทยโดยไม่เสียภาษี

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (24 ก.ค.) ที่กรมศุลกากร นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมลักลอบนำเข้าสุกรแช่แข็ง จำนวน 400 ตัว มูลค่ากว่า 4 แสนบาท และขบวนการลักลอบเครื่องสำอางใช้สิทธิสินค้าถ่ายลำไปประเทศเพื่อนบ้าน รวม 2 คดี

คดีแรกสามารถจับกุมการลักลอบนำสุกรแช่แข็งจากประเทศเวียดนาม จำนวน 400 ตัว มูลค่ากว่า 4 แสนบาท โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายนรินทร์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สืบทราบว่ามีการลักลอบนำสุกรผิดกฎหมาย จึงนำหมายศาล จ.นนทบุรี เข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าแช่แข็ง ซอยแจ้งวัฒนะ 28 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากการตรวจค้นพบเป็นแหล่งเก็บสุกรแช่แข็งจำนวน 300 ตัว ก่อนขยายผลเพื่อเข้าตรวจค้นห้องเย็นบริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 2 ซอย 3 พบสุกรแช่แข็งอีกจำนวน 100 ตัว จึงยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสืบสวนพบว่า ตามชายแดนแม่น้ำโขง จ.มุกดาหาร จ.นครพนม และ จ.อำนาจเจริญ มีกลุ่มขบวนการลักลอบนำเข้าซากสุกรชำแหละ หรือหมูกี้ สุกรสายพันธุ์แคระจากประเทศเวียดนาม โดยพ่อค้าชาวไทยนิยมนำมาทำหมูหัน มีต้นทุนตัวละ 800-1,000 บาท แต่ร้านค้านำมาทำเป็นหมูหันจะจำหน่ายตัวละ 1,500-2,000 บาท โดย อย.ไม่อนุญาตให้นำสุกรจากประเทศเวียดนาม เข้ามายังประเทศไทย เนื่องจากตรวจพบเนื้อสุกรจากประเทศเวียดนามนั้น มีเชื้อโรคปะปนอยู่ ซึ่งเป็นเชื้อโรคติดต่อจำนวน 6 ชนิด เช่น โรคปากเท้าเปื่อย โรคท้องร่วง ทั้งนี้เชื้อโรคบางชนิดไม่สามารถฆ่าหรือทำลายด้วยความร้อนได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักลอบนำสินค้าสุกรแช่แข็ง หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษีของต้องห้าม ต้องจำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากร

คดีที่ 2 สามารถจับกุมรถบรรทุกทะเบียน 70-2061 ปทุมธานี บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ หมายเลข FSCU 8614685 ซึ่งมีนายวัชร บรรเทาทุกข์ เป็นผู้ขับ โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถนนพุทธมณฑล สาย 2 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่ารถคันดังกล่าวลักลอบขนถ่ายสินค้าถ่ายลำไปประเทศพม่า กระทั่งพบรถคันดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสกัดรถคันดังกล่าวไว้ ก่อนขอตรวจสอบภายในตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวพบกล่องสินค้าเปล่าวางปิดบริเวณประตูด้านหลัง ภายในตู้มีการดัดแปลงนำแผ่นไม้อัดกั้นไว้เพื่อเป็นช่องว่างเหลือที่ไว้ แต่ไม่พบสินค้าใดๆ ตู้ดังกล่าวนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องสำอาง โดยนำเข้าในนามบริษัท ไทย-อารากาน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งนายวัชรได้ขับรถคันดังกล่าวมาจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยแจ้งต่อกรมศุลกากรว่าจะขอถ่ายลำผ่านทางนำสินค้าออกไปที่ประเทศพม่าที่ด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก การกระทำดังกล่าวถือเป็นการจัดทำเพื่ออำพรางว่ามีสินค้าบรรจุอยู่เต็มจำนวน แต่ระหว่างทางได้มีการลักลอบนำสินค้าลงในประเทศไทยก่อนเพื่อหลบเลี่ยงภาษี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายวัชรพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาต่อบริษัท ไทย-อารากาน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร นำเข้าสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป