“พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว” ผบ.ตร.สั่งติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และ นปช. อย่างใกล้ชิด ป้องกันเหตุแทรกซ้อน
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่ง (ตร.) พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. บริเวณถนนอุทยาน และการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. บริเวณสวนลุมพินี อย่างใกล้ชิด ทั้งการสืบสวนหาข่าว และการติดตามสถานการณ์ผ่านกล้องวงจรปิด โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.เป็นผู้สั่งการกำลังของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เป็นผู้รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการชุมนุมของกลุ่ม นปช. จะชุมนุมต่อเนื่องถึงวันที่ 6 เมษายน และส่งผลกระทบต่อเส้นทางโดยรอบ ทั้งถนนอุทยาน ถนนพุทธมณฑลสาย 3 สาย 4 และถนนเลียบคลองทวีวัฒนา จึงแนะนำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงไปใช้ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ถนนกาญจนาภิเษก และถนนเพชรเกษม แทน
รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าเหตุระเบิดรถยกจราจร ของสถานีตำรวจนครบาลดุสิต บริเวณถนนราชดำเนินนอก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า เหตุดังกล่าวส่งผลให้พิพิธภัณฑ์ตำรวจ ได้รับความเสียหายกระจกแตก 12 บาน ซึ่งพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด (อีโอดี) ได้เข้าเก็บรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท. วินัย ทองสอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าไปกำกับดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิด
ขณะที่การตั้งด่านความมั่นคง ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ต้องหา 10 คน พร้อมยึดของกลางได้อาวุธปืน 3 กระบอก กระสุนปืน 46 นัด อาวุธมีด 5 เล่ม ยาบ้า 3 เม็ด และคนต่างด้าว 1 คน