สน.พระอาทิตย์
ถาวนาสตช.กู้ศรัทธาลากไส้นักการเมืองสั่งฆ่า"สุทิน"ล้างไพ่หลังหมดยุคผบ.หูดับ
ผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้ว ในคดีล้อมฆ่า "สุทิน ธราทิน" แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) บนรถปราศรัย ที่หน่วยเลือกตั้งวัดศรีเอี่ยม เขตบางนา...ที่ก่อนหน้านี้ในยุคที่มี "บิ๊กอู๋" พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ยังนั่งเก้าอี้เป็นผู้นำสีกากี
คดี "ติดหล่ม" ถูกเก็บเข้าลิ้นชัก ไม่แตกต่างจากคดีอื่นๆ
...แต่ภายหลังกองทัพประกาศเข้ายึดอำนาจอย่างเป็นทางการ คดีนี้ถูกปัดฝุ่นขึ้นใหม่อีกครั้ง...
ล่าสุดมีความคืบหน้าแบบจับต้องได้ ภายหลังชุดคลี่คลายคดีของตำรวจ ที่มี "บิ๊กเอก" พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.นั่งดูแลภาพรวมคดี สามารถจับกุมกลุ่มที่ก่อเหตุล้อมยิง "สุทิน" ที่วัดศรีเอี่ยมได้ 1 ราย คือ
"สุรกริช ชัยมงคล" อายุ 36 ปี คาบ้านพักที่ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันพุธที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดย "บิ๊กยง" พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ว่า จากพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า "สุรกริช" เป็นมือปืนร่วมก่อเหตุยิง "สุทิน" ด้วย เนื่องจากพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ซึ่งตรงกับปืนของเจ้าตัวพอดี
แต่จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารายนี้ยังให้การภาคเสธ โดยรับเป็นเจ้าของอาวุธปืน แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือยิง
"นอกจากนี้จากการตรวจสอบประจักษ์พยานที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าเห็นผู้ต้องหารายนี้อยู่ในจุดเกิดเหตุระยะ 3 เมตรจากรถปราศรัย ฉะนั้นเบื้องต้นยืนยันได้แล้วว่านายสุรกริช เป็นเจ้าของปืนที่ยิงแกนนำ กคป.จากการสืบสวนเชิงลึก ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองพรรคการเมืองหนึ่งด้วย" ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุ...
จากปากคำของผู้ช่วยผบ.ตร.ครั้งนี้ กลายเป็นไฮไลต์สำคัญ หลังจากตำรวจยอมรับว่าคดีนี้มี "นักการเมือง" เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แม้ประเด็นนี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่เลยทีเดียว เพราะในวันเกิดเหตุนั้น ประจักษ์พยานหลายคนแอบเห็นนักการเมืองผู้มีอำนาจซีกรัฐบาลขณะนั้น พร้อมพรรคพวกปรากฏกายอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุล้อมฆ่า "สุทิน" ด้วย...
แต่ตำรวจจะขยายผลส่วนนี้อย่างจริงจัง เพื่อต่อ "จิ๊กซอว์" ไปยังนักการเมือง "มือเปื้อนเลือด" หรือไม่!?! ต้องเกาะติดกันต่อไป
ทั้งนี้หากย้อนดูคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันเลือกตั้งล่วงหน้า 26 มกราคมที่ผ่านมา เหตุเกิดระหว่างที่ "สุทิน" และแกนนำคนอื่นๆ อย่าง "ทศพล แก้วทิมา" ในฐานะแนวร่วมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่เพิ่งเสร็จภารกิจต่อต้านการเลือกตั้งของรัฐบาล "ชินวัตร" จากหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าที่วัดศรีเอี่ยม เขตบางนา และกำลังจะเดินทางกลับที่ตั้ง
ปรากฏว่า มีกลุ่มคู่ขัดแย้ง ที่มีสัญลักษณ์ผ้าแดง เข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธปืนและระเบิด ระดมเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยมีภาพหลักฐานกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนล้อมยิงอย่างบ้านป่าเมืองเถื่อน ที่มีผู้หวังดีถ่ายคลิปวิดีโอไว้ได้
จากภาพหลักฐานคลิปวิดีโอ และภาพถ่ายในโลกโซเชียลมีเดีย รวมถึงพยานแวดล้อม สามารถเชื่อมโยงผู้ร่วมก่อเหตุในวันนั้นแยกเป็นรายๆ นอกจาก "สุรกริช" ที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไว้แล้ว
โดยเฉพาะภาพของชายเสื้อลายทหาร-ผ้าพันคอแดง ที่ปรากฎภาพอย่างชัดเจน คนๆนี้บางข้อมูลว่าชื่อ "วิทยา แสนสุข" ซึ่งถ้าตำรวจสืบทราบควานหาตัวแบบจริงจัง คงไม่ใช่เรื่องยาก ทว่ากว่าที่ตำรวจในยุค "ผบ.หูดับ" พล.ต.อ.อดุลย์ จะขยับตัวได้ ก็ดูเหมือนจะช้าไปเสียแล้ว...
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า อีกคนที่ปรากฎในวันเกิดเหตุ คือ "สมบัติ ทองย้อย" แนวร่วมเสื้อแดงหัวรุนแรง ที่มักเคลื่อนไหวไปพร้อม "โกตี๋" วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำแดงฮาร์ดคอร์ปทุมธานี ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลังจากคดีล้อมยิง "สุทิน" ยังมีคนแอบเห็นบุคคลนี้ พร้อมด้วย "วรัญชัย หัววิก" ไปโผล่ที่เหตุการณ์ปะทะเดือดกับ "มือปืนป๊อปคอร์น" ที่แยกหลักสี่ด้วย
แต่เหตุการณ์ปลิดชีพแกนนำ กคป.นั้น "สมบัติ" มีการเคลื่อนไหว ทำหน้าที่คล้ายตัวเปิดทางนำกองกำลัง "จรยุทธ" เข้าจู่โจมบรรดากลุ่มแนวร่วม กปปส.โดยมีผู้มีอำนาจในเขตบางนา คุมเชิงอยู่ห่างๆ ในวัดศรีเอี่ยม พร้อมส่งสมุนอย่าง "สุรกริช" เข้าตีล้อมก่อเหตุในวันดังกล่าว
ขณะที่เหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มันคุมเชิงอยู่รอบนอก และในวัดศรีเอี่ยม ทั้ง"ปิดตา" ปล่อยให้กลุ่มโจรผ้าพันคอแดงลั่นกระสุนปืนใส่เหยื่ออย่างเลือดเย็น จนสุดท้ายจุดจบต้องนองด้วยเลือดนั้นเอง
...ทั้งนี้ช่วงที่เกิดเหตุล้อมยิง "สุทิน" ใหม่ๆ หนึ่งคนที่ตกเป็นเป้าว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ คงหนีไม่พ้น "สารวัตรต้น" พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย แม้เจ้าตัวจะออกมาปฎิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเหตุครั้งนั้น แต่ดูเหมือนว่าพยานแวดล้อมจะยืนยันตรงกันว่า ผู้มีอำนาจ ณ บางนาคนนี้ ปรากฎตัวอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุด้วย
ฉะนั้นคงไม่แปลกที่ คสช.จะส่งชุดพิเศษเข้าจับกุมตัว "สารวัตรต้น" ทันทีที่ดื้อแพ่งไม่ยอมเข้ารายงานตัว...
ท้ายที่สุด หวังว่าคดีล้อมฆ่า "สุทิน" จะคลี่คลายเสียที ไม่ว่า "คนเบื้องหลัง" จะเป็นใคร หรือมีความสนิทสนมกับ "ผู้มีอำนาจต่างแดน" มากเท่าไหร่...แต่เชื่อว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ยุคหลังยุคหูดับ คงใช้โอกาสนี้เรียกศรัทธากลับคือให้ตำรวจ โดยทำสิ่งที่ถูกต้อง และตามจับ "นักการเมือง" เบื้องหลังสั่งฆ่าได้ตามคำโว!?!