ทหารคุม บก.ฟ้าเดียวกันส่งเข้าห้องขังกองปราบฯ

ทหารพระธรรมนูญคุมตัว บก.นิตยสารฟ้าเดียวกัน ส่งเข้าห้องขังกองปราบปราม 7 วัน พร้อมแจ้งข้อหาละเมิดเงื่อนไขการปล่อยตัว หลังโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะหมิ่นเหม่

วันนี้ (7 ก.ค.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.พร้อมกำลังสารวัตรทหาร ได้ควบคุมตัวนายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการ (บก.) นิตยสารฟ้าเดียวกัน มอบให้ พ.ต.ท.นทธีฤทธิ์ หาญเสน่ห์ลักษณ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อสอบปากคำและควบคุมตัวที่ห้องขัง บก.ป.โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก มีกำหนดเวลา 7 วัน ซึ่งทางทหารได้ปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยจะทำหนังสือร้องทุกข์มายังพนักงานสอบสวน บก.ป.อีกครั้งเพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาหากพบว่ามีการกระทำที่ผิดเงื่อนไขการปล่อยตัว หลังจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.)

ทั้งนี้ นายธนาพลได้เคยเข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.ที่ 5/2557 แล้ว โดยได้รับการปล่อยตัวไปเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้นนายธนาพลได้เคลื่อนไหวร่วมกับมวลชนที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน กทม. จากนั้น นายธนาพลก็ได้ไปแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กที่หมิ่นเหม่ ซึ่งผิดตามที่ตกลงกันไว้ จึงควบคุมตัวดังกล่าว

พ.ต.ท.นทธีฤทธิ์กล่าวว่า ทหารมีอำนาจที่จะขอให้ควบคุมตัวนายธนาพลจนครบกำหนด 7 วันหรือไม่ก็ได้ โดยอาจจะพิจารณาขอรับตัวไปควบคุมยังสถานที่อื่น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ทหารจะทำหนังสือแจ้งมายังพนักงานสอบสวน แต่ระหว่างนี้ทนายความ และญาติสามารถเข้าเยี่ยมได้ตามปกติ ไม่เหมือนผู้ต้องหาในคดีอาญาทั่วไปซึ่งมีกำหนดเวลาในการเข้าเยี่ยม อย่างไรก็ดี ทาง บก.ป.ไม่ได้มีห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาที่แยกไว้เฉพาะสำหรับผู้ที่ถูกกักตัวตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก จึงต้องคุมตัวรวมกับผู้ต้องหาคดีอื่นๆ ในห้องขังเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเว็บไซต์ประชาไทรายงานถึงกรณีที่ทหารได้เข้าควบคุมตัวนายธนาพลว่า เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2557 นายธนาพลได้รับนัดจากเจ้าหน้าที่ให้เดินทางไปคนเดียว โดยเพียงการแจ้งให้บุคคลใกล้ชิดทราบเวลาและสถานที่นัดหมาย คือร้าน Coffee Zelection ใต้ตึกยศวดี ถนนพหลโยธิน 7 หรือซอยอารีย์ เวลา 12.30 น.

แหล่งข่าวรายงานว่า เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายธนาพลเข้ามาสั่งเครื่องดื่มและอาหารไปนั่งอยู่โต๊ะส่วนด้านนอกร้าน ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง นายทหารนอกเครื่องแบบ ทราบภายหลังชื่อ พ.ท.ภาสกร กุลรวิวรรณ จึงเข้ามาหาธนาพลภายในบริเวณรอบๆ ก็มีลูกค้าคนอื่นๆ นั่งอยู่ด้วย บทสนทนาเริ่มต้นอย่างเป็นกันเอง เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่ได้มีน้ำเสียงข่มขู่และค่อนข้างพูดเบา ขณะที่ธนาพลพูดเสียงดังฟังชัดในทำนองที่ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรเกินเลย และไม่เคยแตะเรื่อง 112 “ผมทำตามที่ตกลงไว้ ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” เขาพูดย้ำเป็นระยะ

ผ่านไปเพียงประมาณสิบนาทีเท่านั้น นายธนาพลโทรศัพท์แจ้งบุคคลใกล้ชิดว่าตัวเองกำลังจะถูกทหารพาตัวไป นายธนาพลไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด และได้ถูกคุมตัวขึ้นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลซึ่งแหล่งข่าวแจ้งภายหลังว่าเป็นรถทะเบียน ชล 8106 ขับออกไปจากร้านกาแฟ

ขณะอยู่บนรถ นายธนาพลได้โทร.แจ้งบุคคลใกล้ชิดว่าตนจะถูกนำตัวไปที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (สนามเป้า) และกล่าวเพียงว่าเสร็จแล้วจะโทร.หาเอง จากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อนายธนาพลได้อีกเลย

จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงได้รับแจ้งว่ามีการนำตัวนายธนาพลไปยังกองบังคับการปราบปรามโดยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ แต่มีการอ้างถึงจากนายทหารระดับสูงว่าเกี่ยวเนื่องกับการโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ของนายธนาพลหลังได้รับการปล่อยตัวซึ่งอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนเงื่อนไขตามที่ลงนามไป

ก่อนหน้านี้นายธนาพลยืนยันกับบุคคลใกล้ชิดว่า เขาเข้าใจว่าการนัดหมายครั้งนี้เป็นไปเพื่อ “กินกาแฟเฉยๆ” และทางเจ้าหน้าที่ทหารเองก็บอกเพียงว่า “เรียกไปคุย ไม่ได้จับ” เพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกัน เขายืนยันว่าเขาไม่มีเจตนาฝ่าฝืนเงื่อนไข หรือปลุกปั่นยุยงให้เกิดการต่อต้าน คสช.ดังที่เจ้าหน้าที่กล่าวกับเขาเลย เพียงแต่รายงานข่าวและแสดงความคิดเห็นของตนทางเฟซบุ๊กของตนเท่านั้น

การนัดหมายครั้งนี้ไม่มีสื่อมวลชนเข้ามาติดตามเหตุการณ์ ไม่มีการขัดขืนทางกายภาพหรือวาจา ซึ่งเป็นการยืนยันได้ว่านายธนาพลยินยอมมาตามนัดเพื่อ “กินกาแฟเฉยๆ” อย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่รู้ตัวมาก่อนว่าตนจะถูกจับกุมและควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกของคณะรัฐประหาร อนึ่งรายงานนี้เรียบเรียงขึ้นจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนในภายหลัง

ด้าน พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.กล่าวว่า การคุมตัวครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบการกระทำที่เป็นการผิดเงื่อนไข หลังจากนายธนาพลได้รับการพิจารณาปล่อยตัว โดยช่วงที่มีคำสั่ง คสช.เรียกให้นายธนาพลเข้ารายงานตัวก่อนหน้านี้นายธนาพลทราบดีอยู่แล้วว่าการเคลื่อนไหวต่างๆ ทางการเมืองเป็นการกระทำผิดเงื่อนไข และเจ้าหน้าที่ยังคงพบการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว และการกระทำอื่นๆ ด้วย

พ.ท.บุรินทร์เปิดเผยด้วยว่า อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการกักตัวไว้เป็นเวลา 7 วัน แต่อาจมีการพิจารณาปล่อยตัวในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ซึ่งยังไม่ครบกำหนดเวลาการกักตัว โดยจะขอดูพฤติกรรมอีกคร้ง หลังจากได้สอบสวนและปรับทัศนคติโดยนายธนาพลให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และยืนยันว่าจะไม่เคลื่อนไหวหรือกระทำการใดๆ ที่ผิดเงื่อนไขอีก

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของนายธนาพลที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ท.บุรินทร์กล่าวว่า กรณีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะทราบดีอยู่แล้ว แต่การพิจารณาของทาหารขณะนี้จะดูในเรื่องการเมืองเป็นหลักก่อน หากพบการกระทำใดที่เข้าข่ายความผิดก็จะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไปในทุกกรณีไม่มีละเว้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนายธนาพลแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังได้กักตัว น.ส.เชื้อสุวรรณ มุสิกภูมิ อายุ 51 ปี ที่ยืนถือป้ายข้อความภาษาอังกฤษที่บริเวณหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐฯ โดยการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนประกาศ คสช.เรื่องห้ามการชุมนุมทางการเมืองที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย แต่ น.ส.เชื้อสุวรรณกลับออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ชาวต่างชาติต่อต้าน คสช.

มีรายงานข่าวว่า หลังจากถูกคุมตัวเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเพื่อปรับทัศนคติและกักตัวไว้ที่ห้องขัง บก.ป.โดยอยู่รวมกับผู้ต้องหาคดีอาญาอื่นๆ รวมทั้งนายธนาพล บก.นิตยสารฟ้าเดียวกัน โดยนายธนาพลออกปากกับเจ้าหน้าที่ว่าจะช่วยพูดคุยเพื่อปรับทัศนะและความคิดเห็นทางการเมืองของ น.ส.เชื้อสุวรรณ