ป.ป.ส.ทลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่จากพม่า โดยจับกุมสาวนักธุรกิจเปิดบริษัทบังหน้าที่แม่สอด ยึดทรัพย์อีกกว่า 200 ล้าน พบเส้นทางการโอนเงินไหลเวียนปีละ 2,400 ล้านบาท และออกหมายจับหม่องร่วมขบวนการอีก 6 คน พร้อมประสานเพื่อนบ้านช่วยติดตามจับกุม
วันนี้ (8 มิ.ย.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมกันเดินทางลงพื้นที่บ้านเลขที่ 454 หมู่ 2 ต.แม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อจับกุม นางมณี คำพีละ เจ้าของกิจการบริษัท นครมณี 786 จำกัด พร้อมยึดและอายัดทรัพย์สินทั้งบ้านพัก ที่ดิน รถยนต์ และเงินสดในบัญชีธนาคารต่างๆ รวม 70 บัญชี มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ สำนักงาน ป.ป.ส.ได้สืบสวนติดตามเส้นทางการเงินของเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่พื้นที่ในกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคใต้ ที่จัดหายาเสพติดจากประเทศพม่ามาจำหน่ายในพื้นที่แพร่ระบาดภายในประเทศ จากนั้นมีการโอนเงินที่ได้จากการขายยาเสพติดดังกล่าวกลับไปประเทศพม่า โดยกลุ่มที่ช่วยเหลือดำเนินการด้านการเงินให้กับเครือข่ายค้ายาเสพติดดังกล่าวมีฐานการดำเนินการอยู่ใน อ.แม่สอด จ.ตาก พบว่านางมณีเป็นหัวหน้าขบวนการ ทำหน้าที่โอนเงินค่ายาเสพติดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมีเงินหมุนเวียนปีละกว่า 2,400 ล้านบาท มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีต่อนางมณีและเครือข่ายชาวพม่าอีก 6 คน เลขาธิการ ป.ป.ส.จึงได้อนุมัติจับกุมตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 โดยศาลอาญาได้ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว
สำหรับพฤติการณ์ของนางมณี เป็นผู้ที่จัดหาที่พัก ยานพาหนะให้แก่กลุ่มชาวพม่าขณะเข้ามาดำเนินการเรื่องยาเสพติดในประเทศไทย รวมทั้งรับจดทะเบียนเป็นนายจ้างให้ในนามบริษัทของตนเองเพื่อให้กลุ่มของตนเองได้สิทธิในการพำนักอยู่ในประเทศไทยได้นานขึ้น นอกจากนั้นยังรับถือครองทรัพย์สินที่ต้องแจ้งจดทะเบียนในประเทศไทย เพื่อปกปิดอำพรางแหล่งที่มาของรายได้ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด และทำธุรกรรมทางการเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดร่วมกับกลุ่มของชาวพม่าที่อยู่ในเครือข่ายนี้ทั้งหมด
“สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาชาวพม่า 5 คน และไทยใหญ่อีก 1 คน ที่อยู่ในเครือข่ายและถูกออกหมายจับพร้อมกันในครั้งนี้ด้วย มี 1. นางซาฟียาบี 2. นางทิดา โช 3. นายเนลิน 4. นายมินโกไน 5. น.ส.โมโม และ 6. นายจันทร์ หรือจักรพันธ์ สกุลโชติมณี ชาวไทยใหญ่ โดยทั้งหมดร่วมกันก่อตั้งบริษัทบังหน้า จดทะเบียนตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองย่างกุ้ง มีสาขาใหญ่ที่มะละแหม่ง และเมียวดี โดยทำธุรกรรมโอนเงินค่ายาเสพติด รวมทั้งเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อจัดหาบัญชีที่ใช้รับเงินค่ายาเสพติด
นอกจากจะใช้บัญชีของตนเองและบุคคลในเครือข่ายแล้วยังจัดหาบัญชีโดยการว่าจ้างชาวพม่าเปิดบัญชีธนาคารแทน โดยหลังจากที่ได้รับเงินค่ายาเสพติดผ่านบัญชีดังกล่าวแล้ว กลุ่มผู้ต้องหาจะดำเนินการส่งต่อเงินดังกล่าวไปยังบริษัทที่ตั้งขึ้นบังหน้าดังกล่าว ก่อนส่งต่อไปยังนายทุนผู้ผลิตและจำหน่ายยาเสพติดในประเทศพม่าต่อไป ส่วนนายจันทร์ หรือ จักรพันธ์ สกุลโชติมณี ชาวไทยใหญ่นั้น ทำงานให้กับกองกำลังอาสาสมัครรัฐฉานใต้ (SSS) ด้วย
สำหรับผู้ต้องหาชาวพม่าและไทยใหญ่ในเครือข่ายที่ถูกออกหมายจับไว้ทั้ง 6 คนนั้น พบว่าทั้งหมดได้หลบหนีเข้าไปในประเทศพม่า ขณะนี้สำนักงาน ป.ป.ส.ได้ส่งหมายจับพร้อมพฤติการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและการโอนเงินไปให้สำนักงาน ป.ป.ส.พม่าได้ทราบแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่วมมือกันในติดตามจับกุมตัว และอายัดทรัพย์สินต่างๆ ที่อยู่ในประเทศพม่า สำหรับเงินสดที่ได้อายัดไว้ในบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาและเครือข่ายทั้ง 70 บัญชีมีมากกว่า 100 ล้านบาท และยังพบบัญชีที่มีความเชื่อมโยงกับบัญชีเงินฝากทั้ง 70 บัญชีอีกเป็นจำนวนมาก สำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.จะได้ขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวด้วยว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการโดยใช้ พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นเครื่องมือในการทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดที่สำคัญ โดยพนักงานสอบสวนของ บช.ปส. พนักงานสอบสวนในทุกท้องที่ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้ร่วมกันดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลในคดียาเสพติดทุกคดี เพื่อดำเนินการต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งผู้สมคบ สนับสนุน และช่วยเหลือผู้กระทำความผิดในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดยาเสพติด ในเรื่องนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช.ได้เน้นให้สำนักงาน ป.ป.ส.ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ไม่ให้ผู้ค้ายาเสพติดนำเงินที่ได้จากการค้ายาไปฟอก ซุกซ่อน หรือนำไปทำธุรกิจบังหน้าได้อีกต่อไป
การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงและทำลายเครือข่ายการเงินของนักค้ายาเสพติดบริเวณชายแดนเป็นครั้งแรกและครั้งสำคัญ เชื่อว่าจะสามารถยับยั้งการโอนเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดข้ามไปประเทศพม่าได้ในระดับหนึ่ง และขอแจ้งเตือนไปยังกลุ่มที่ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวตามแนวชายแดนบริเวณ อ.แม่สาย อ.เวียงแก่น อ.เชียงของในพื้นที่ จ.เชียงราย รวมทั้งพื้นที่ชายแดนด้าน อ.ฝาง และ อ.แม่อาย ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และทางชายแดนด้านจังหวัดหนองคาย หากพบการทำธุรกรรมด้านการเงินให้กับนักค้ายาเสพติดของเครือข่ายใดก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ส.จะดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดและติดตามยึดอายัดทรัพย์สินต่อไป