รอง ผบช.น.แถลงข่าวจับหนุ่มโมร็อกโกปลอมบัตรเครดิต ตระเวนรูดซื้อสินค้าในไทย
วันนี้ (4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วรัญรัช การุณยธัช รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.ท.โสภณ ยานะธรรม รอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก, พ.ต.ต.พีรรัฐ โยมา สว.สส.สน.หัวหมาก, ร.ต.อ.กิตติพงศ์ ทรัพย์สิน รอง สว.สส.สน.หัวหมาก แถลงผลการจับกุมอดิล ซาดชิ อายุ 33 ปี ชาวโมร็อกโก ข้อหาปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น มีเครื่องมือหรือวัตถุ สำหรับปลอม หรือแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ และใช้หรือมีไว้เพื่อใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม หรือแปลงขึ้นมา ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้ที่มีสิทธิ์ใช้ในการชำระสินค้า หรือค่าบริการ หรือหนี้อื่นๆแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิก-ถอนเงินสด
พล.ต.ต.วรัญรัชกล่าวว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ครั้งนี้เป็นชาวโมร็อกโก ชื่อนายอดิล ซาดชิ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. เจ้าหน้าที่กสิกรไทยตรวจสอบข้อมูลการชำระเงินพบว่ามีคนนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม และมีชุดตัวเลขบัตรซึ่งเป็นบัตรเครดิตในธนาคารของสหรัฐอเมริกา มารูดซื้อสินค้าในเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก จากการตรวจสอบชื่อ นายอดิล ซาดชิ อายุ 33 ปี ชาวโมร็อกโก พบบัตรเครดิตในตัวผู้ต้องหาจำนวน 7 ใบ บัตรเครดิตธนาคาร SHBC (วีซ่า) จำนวน 9 ใบ และใบเสร็จรับเงินของบริษัท คอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำนวน 1 ฉบับ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง จำนวน 2 เครื่อง และมีใบเสร็จชำระสินค้า 5,900 บาท โดยใช้บัตรเครดิตเลขที่ 4741, 6649, 9878, 7138 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเดินทางไปที่ห้องพักของผู้ต้องหา เพอะกรีน เรสซิเดนท์ ห้อง310 ตั้งอยู่ที่ 539/1 ถนนอโศกดินแดง แขวงและเขตดินแดง กทม. พบเครื่องตอกชุดบัตรเครดิต และเครื่องบันทึกข้อมูลบนแถบแม่เหล็กมาลงข้อมูลที่บัตรเครดิตอีกด้วย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหามาที่ สน.หัวหมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยมาตรวจสอบบัตรเครดิตดังกล่าวปรากฏว่าเป็นบัตรเครดิตปลอม ทั้งนี้ประเทศไทยจะต้องเป็นผู้ชำระเงินค่าสินค้าทั้งหมดให้แก่ร้านค้า ไม่สามารถเรียกเก็บค่าสินค้าจากธนาคารของสหรัฐอเมริกาได้ จึงได้รับความเสียหาย ขณะที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อบัตรเครดิตเปล่ามาจากประเทศมาเลเซียพร้อมชุดอุปกรณ์เครื่องตอกบัตรเครดิต และเครื่องบันทึกข้อมูลลงแผ่นแม่เหล็ก อุปกรณ์เหล่านี้สามารถสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ด เบื้องต้นผู้ต้องหาใช้โน้ตบุ๊กค้นหาข้อมูลของผู้ที่มีบัตรเครดิต จากนั้นปลอมแปลงบัตรเครดิตและตระเวนรูดซื้อสินค้า
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องหาไม่ได้ทำคนเดียว มีการทำเป็นขบวนการ รวมทั้งผู้ต้องหามีพรรคพวกอยู่ที่ประเทศมาเลเซียที่จะช่วยกันหาข้อมูลของผู้ที่มีบัตรเครดิตและมาปลอมแปลงเพื่อใช้รูดซื้อสินค้าในประเทศไทยซึ่งจะต้องติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมด เพื่อนำมาขยายผลการจับกุมต่อไป