ศาลไม่ให้ประกัน “จ.ส.อ.อภิชาติ” โพสต์หมิ่นเบื้องสูง-ชูป้ายต้าน คสช.

ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไม่ให้ประกัน “จ.ส.อ.อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์” โพสต์หมิ่นเบื้องสูง-ร่วมม็อบชูป้ายต้านรัฐประหารฝ่าฝืนกฎอัยการศึก ระบุคดีมีอัตราโทษสูง เกรงจะหลบหนี

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ควบคุมตัว จ.ส.อ.อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์ ผู้ต้องหาและเป็นนักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มชุมนุมประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืนประกาศ คสช. ฉบับที่ 7/2557 ลงวันที่ 22 พ.ค. 2557 ห้ามการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองใด ที่มีการออก, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และขัดคำสั่งเจ้าพนักงานที่ให้เลิกมั่วสุม, นำข้อมูลเข้าสู่ระบบความคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลนั้นเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ราชอาณาจักร และหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กรณีที่มีโพสต์ข้อความ มีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อช่วงปี 2553 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. - 10 มิ.ย. นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 10 ปาก รวมทั้งรอผลตรวจการพิมพ์ลายนิ้วมือ และอื่นๆ

คำร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2557 เจ้าหน้าที่ทหาร ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ ขณะที่มีการรวมตัว จัดกิจกรรมต่อต้านการควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ของ คสช. ที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน ซึ่งต่อมาได้มีการส่งตัวแจ้งความดำเนินคดี ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ขณะที่การกระทำของผู้ต้องหานั้น เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 มาตรา 8 และ 11 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 215 วรรคแรกและวรรคสาม, 216, 368 วรรคแรก และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3) ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ

ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวด้วย เนื่องจากผู้ต้องหาถูกกล่าวหาความผิดเกี่ยวกับสถาบันฯ ด้วย เกรงว่าหากปล่อยชั่วคราวแล้วผู้ต้องหาจะไปยุ่งกับพยานหลักฐานและอาจหลบหนี

โดย จ.ส.อ.อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์ ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการเป็นหลักทรัพย์ เพื่อขอปล่อยชั่วคราว

ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. ศาลพิจารณาคำร้องฝากขังแล้ว อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ ส่วนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์ ประกอบหลักทรัพย์แล้ว เห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาใช้ตำแหน่งราชการ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวพันเป็นญาติ หรือเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความใกล้ชิดเป็นหลักทรัพย์ ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวด้วย จึงเกรงว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาแล้ว อาจจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

ภายหลังศาลยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้ว ต่อมาเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงควบคุมตัว จ.ส.อ.อภิชาติ ผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร