รอง ผบ.ตร.ประชุมมอบนโยบายที่ได้รับมอบหมายจาก รรท.ผบ.ตร. เน้นย้ำสายงานปราบปรามเร่งรัดติดตามจับกุมคดีหมิ่นเบื้องสูงให้หมด ติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธสงครามทำร้ายประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกำชับการกวาดล้างผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ตามคำสั่ง คสช. ขู่เชือดพื้นที่ปล่อยปละละเลยมีบ่อนการพนันและอบายมุขในพื้นที่
วันนี้ (30 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอทางไกลเป็นครั้งแรก หลังได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้รับผิดชอบดูแลงานป้องกันและปราบปราม หลังมีการปรับโครงสร้างและมอบหมายงานใหม่ โดยในที่ประชุมมีผู้บังคับบัญชาระดับสูง ตร.ที่รับผิดชอบด้านป้องกันและปราบปรามเข้าร่วมด้วย อาทิ พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับผู้บัญชาการทั่วประเทศ
พล.ต.อ.เอกกล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจและมอบหมายงานในสายงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยได้เน้นย้ำงานในหน้าที่สำคัญตามที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายงานให้ดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด เช่น คดีหมิ่นสถาบันตั้งแต่มีการชุมนุม เร่งรัดสืบสวนจับกุมมาดำเนินคดึให้ได้ทุกราย และคดีอุกฉกรรจ์ต่างๆ ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองที่คนร้ายกระทำการอันโหดเหี้ยมใช้อาวุธปืนสงคราม และระเบิดก่อเหตุในหลายพื้นที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เรื่องนี้ได้เร่งรัดมาโดยตลอด และได้กำชับให้นำสำนวนคดีมาตรวจสอบและเร่งรัดทุกคดีว่าพยานหลักฐานต่างๆ ครบถ้วนหรือไม่ ตั้งแต่เหตุยิงนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เหตุการณ์ปะทะที่ดินแดง รวมไปถึงคดีระเบิดเวที กปปส.ที่ จ.ตราด บางคดีมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน อย่างคดีระเบิด กปปส.ที่ จ.ตราด คนร้ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับกุมอาวุธสงครามในพื้นที่ อ.กระทุมแบน จ.สมุทรสาคร โดยล่าสุดตำรวจภูธรภาค 8 รายงานเพิ่มเติมว่า มีการจับกุมอาวุธสงครามได้เป็นจำนวนมากในพื้นที่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบเพื่อหาความเชื่ยมโยงกับคดีอื่นๆ ต่อไป พร้อมนัดประชุมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบประชุมเร่งรัดอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน เวลา 11.00 น. ในส่วนคดีอื่นๆ ก็คงเป็นไปในแนวทางที่ รรท.ผบ.ตร.กำชับเน้นย้ำตามประกาศของ คสช. ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามอบายมุข บ่อนการพนัน ตู้ม้า กำชับเน้นย้ำและจะพิจารณาโทษของผู้ที่บกพร่องตามลำดับ
พล.ต.อ.เอกกล่าวอีกว่า ในส่วนคดีเกี่ยวเนื่องกับการทุจริตในโครงการจำนำข้าวนั้น จะมีคดีที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ เช่น ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ สวมสิทธิ์ รวม 250 คดี หากเป็นคดีทุจริตก็ไม่ระดับเจ้าหน้าที่ อยู่ในจุดจำนำร่วมกับโรงสีฉ้อโกง ซึ่งได้สั่งการให้รายงานผลคดีทั้งหมดว่ามีผลการดำเนินคดึอย่างไร โดยให้รายงานภายในวันจันทร์ที่ 2 มิ.ย. ในส่วนที่บก.ปปป.รับผิดชอบที่มีกรณีร้องเรียนเรื่องการสวมสิทธิ์ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมด 10 คดี จากการตรวจสอบแล้วมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องดำเนินดารการร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้ว 3 คดี อีก 7 คดีอยู่ระหว่างดำเนินการ
ด้าน พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตนเองได้รับมอบหมายดูแลปราบปรามอญากรรมในพื้นที่ บช.ภ.9 จากการลงพื้นที่มีการใช้อาวุธมาใช้ก่อเหตุเป็นจำนวนมากทั้งที่เป็นอาวุธปืนถูกต้องตามกฎหมายและผิดกฎหมาย ตรวจสอบแล้วพบว่าการออกใบอนุญาตมีปัญหา มีการออกใบอนุญาตให้เป็นจำนวนมาก และมีบางส่วนนำไปให้บุคคลอื่นนำไปสวมสิทธิ์ต่อ จะเสนอให้มีการการแก้ไข พ.ร.บ.อาวุธปืน เดิมไม่มีการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่ต้องโทษยาเสพติด ทำให้ผู้ที่ทำผิดเรื่องยาเสพติดขอใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนได้ง่าย จะต้องมีการแก้ไขเพราะอาวุธปืนเป็นบ่อเกิดของอาชญากรรมรุนแรงต่างๆ