xs
xsm
sm
md
lg

“วัชรพล” จัดแถวบิ๊กสีกากี “สมยศ” คุมมั่นคง “วรพงษ์” คุมบริหาร ขณะที่ “พงศพัศ” ตบยุง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“วัชรพล” เรียกประชุมผู้ช่วย ผบ.ตร.-รอง ผบ.ตร.จัดแถวใหม่ให้ “สมยศ” คุมมั่นคง การข่าว “บิ๊กย้อย” คุมบริหาร “พงศพัศ” ตบยุง ตั้งเป้า 4 เดือน ชำแหละโครงสร้างตำรวจ เล็งตั้งเป็นกระทรวงแยก 17 กรม ผบ.ตร.เป็นปลัด ยันตำรวจต้องเปลี่ยนแปลง

วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบาย และมอบหมายหน้าที่การงานให้แก่นายตำรวจระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.-รอง ผบ.ตร. โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมตนได้เน้นย้ำเรื่องความสามัคคี เพราะขณะนี้ประเทศไทยต้องการความสามัคคี จึงได้กำชับให้ทุกคนมุ่งมั่นที่จะทำงานช่วยกันแก้ปัญหา เชื่อว่าหากทำได้สังคมก็จะเกิดความเชื่อถือต่อตำรวจ หลังจากนี้จะเดินหน้าการปฏิรูปตำรวจตามที่สังคมคาดหวังที่จะเห็นระบบตำรวจมีการเปลี่ยนแปลง อยากให้มีการกระจายอำนาจ ทั้งนี้ หากต้องการกระจายอำนาจก็ต้องเข้ามาหารือกันว่าจะนำเรื่องใดเสนอให้แก่รัฐบาล และผู้มีอำนาจในปัจจุบันได้ทราบเพื่อให้ตำรวจก้าวไปสู่ความเป็นมืออาชีพได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ไฟเขียวให้คิดว่าจะปฏิรูปตำรวจอย่างไร พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตนคิดอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าในช่วงที่ผ่านมาว่าเราเห็นสิ่งที่ทางมวลชนต้องการ อยากเห็นการกระจายอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีโอกาสแล้ว สังคมก็คาดหวัง และเราก็ต้องคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ต้องคิดถึงในเรื่องที่จะทำให้เรามีคุณภาพ และประสิทธิภาพที่สุด ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนที่เหลือจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมในหลายๆ เรื่อง อย่างเช่นในการประชุมครั้งนี้มีความเห็นที่ตรงกันว่า จะมีการแบ่งชั้นสถานีตำรวจ ซึ่งจะทำให้ทิศทางเจริญเติบโตเป็นระบบมากขึ้น มีการประเมินผลงานในรอบ 6 เดือน สิ่งเหล่านี้เราจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบคุณธรรม หากตำรวจความเชื่อมั่นในคุณธรรม เชื่อว่าเป้าหมายที่จะทำให้ประชาชนยอมรับก็จะเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป เราต้องช่วยกัน

เมื่อถามว่า การปฏิรูปตำรวจจะมีการเมืองเข้ามาอยู่ในการบริหารเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราก็ต้องคิด ข้อเรียกร้องก็คือต้องการให้ปลอดการเมือง โดยที่จริงแล้วการเมืองกับตำรวจมีเป้าหมายเรื่องเดียวกัน คือ สังคมปลอดภัย ประชาชนมีความสงบสุข และมีรายได้พอเพียง อันจะทำให้ปัญหาสังคมลดน้อยลง แต่อยู่ที่ว่าเราจะทำกติกาอย่างไรให้ประชาชนมั่นใจ หากกติกาและเส้นทางชัดเจน มีระบบคุณธรรม เชื่อว่าการเมืองก็ไม่สามารถจะมาสั่งซ้ายหันหรือขวาหันได้ โดยเราก็ต้องมีการเปิดตัวของเราเอง และผู้บัญชาการระดับสูงก็ต้องยอมสละอำนาจ สละดุลพินิจ เพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชามั่นใจ เมื่อทำเรื่องดังกล่าวได้ทุกอย่างก็จะสำเร็จ

พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวต่อว่า ตนขอเน้นย้ำแนวนโยบายสานต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ ทุกอย่าง ต้องให้ขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตำรวจก็รักศักดิ์ศรี ทำงานด้วยความทุ่มเท และเสียสละ ส่วนการเปลี่ยนแปลงต้องมีบ้างเพื่อบริหารจัดการขึ้นอยู่กับสถานภาพ และช่วงจังหวะ แต่ขณะนี้เราต้องการความมั่นคง ความสามัคคี จึงทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนกันบ้าง เป็นเรื่องปกติของชีวิตข้าราชการ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการกลั่นแกล้งใคร ซึ่งขณะนี้เป็นโอกาสพิเศษที่มีเงื่อนไขพิเศษที่สามารถแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ได้มากขึ้น จากที่เราต้องนำเสนอผู้มีอำนาจ ถ้าเราสามารถปรับเปลี่ยนอะไรแล้วจะทำให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะทำให้เราโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้

เมื่อถามว่า อาจจะมีการแก้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า แน่นอน ต้องมีการแก้ไข อาจการมีคณะกรรมการถึง 2 คณะ (ก.ตร และ ก.ต.ช.) นั้น อาจจะไม่มีความจำเป็น เพราะที่จริงแล้วมีเพียงคณะกรรมการเดียวก็ได้ แต่กลไกทางกฎหมายเป็นเรื่องที่ยาก ต้องค่อยๆ ทำไป อย่างเช่นเรื่องที่ข้าราชการมียศ และไม่มียศ ให้ฝ่ายอำนวยการไม่มียศ และเป็นการสร้างทัศนคติว่าทุกคนมีส่วนในการดูแลประชาชน และความสงบเรียบร้อยในสังคม การผลักดัน พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยชั้นพนักงานสอบสวน พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ร.บ.รักษาความปลอดภัยเอกชน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ก็ต้องเกิดขึ้น

ขณะที่มีรายงานว่า ในที่ประชุม พล.ต.อ.วัชรพลได้พูดถึงการปฏิรูปตำรวจที่ต้องทำให้แล้วเสร็จในช่วง 4 เดือนนี้ โดยมีแนวคิดจะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปลี่ยนเป็นกระทรวง มี 17 กรมในสังกัด ผบ.ตร.เป็นปลัดกระทรวง ชื่อเรียก “กระทรวงการรักษาความปลอดภัยภายใน” มีรัฐมนตรีดูแล โดยมีการเตรียมโครงสร้างนี้ไว้แล้ว บางส่วนทำไว้ตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.อดุลย์ โดยครั้งนี้จะใช้จังหวะที่ประเทศปกครองบริหารโดย คสช.ผลักดันให้สำเร็จ

สำหรับรายละเอียดการแบ่งงานมี ดังนี้ งานบริหาร 1 พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.นเรศ เทียนกริม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผู้ช่วย ผบ.ตร.กำกับดูแลสำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (สทส.) และกองวินัยงานบริหาร 2 พล.ต.อ.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อุดม ชัยมงคลรัตน์ พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยยง กำกับดูแล สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (สยศ.ตร.) สำนักงานกำลังพล สำนักงบประมาณและการเงิน(สงป.) รพ.ตำรวจ (รพ.ตร.) ยกเว้นสถาบันนิติเวชวิทยา (นต.) สำนักงานเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองการต่างประเทศ กองสารนิเทศ กองบินตำรวจ และโรงพิมพ์ตำรวจ

งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูจร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อุดม พล.ต.ท.อำนาจ พล.ต.ท.ชัยยง พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ และ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. กำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ยกเว้นกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) กองบัญชาการภาค 1-9 ยกเว้นศูนย์ฝึกอบรมภาค 1-8 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ยกเว้นกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) และ สยศ.ตร.เฉพาะ ผอ.งานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.วินัย กำกับดูแล กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
งานมั่นคง 1 พล.ต.อ.สมยศ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.อำนาจ กำกับดูแล กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ยกเว้นกองบังคับการฝึกพิเศษ (กฝ.) และ สยศ.ตร. ยกเว้นกลุ่มงานกิจการพิเศษ

งานมั่นคง 2 พล.ต.อ.รชต พล.ต.ท.สุพร และ พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิตย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กำกับดูแล สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจเฉพาะกลุ่มงานกิจการพิเศษ งานถวายความปลอดภัย และโครงการพระราชดำริ

งานมั่นคง 3 พล.ต.อ.วุฒิ พล.ต.อ.อุดม รักศิลธรรม ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ และพล.ต.ท.สันติ กำกับดูแลสำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง บช.น. เฉพาะบก.จร.บช.ก. เฉพาะ บก.ทล. บก.ทท. และตท.ยกเว้นการลางานศึกษาอบรม พล.ต.อ.อุดม พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ พล.ต.ท.อารีย์ และพล.ต.ท.ม.ล.พันธุ์ศักดิ์ กำกับดูแลโรงเรียนนายร้อยตำรวจ กองบัญชาการศึกษา ภ.1-8 เฉพาะ ศฝร.ภ.1-8 และตชด.เฉพาะ กฝ.

งานกฎหมาย 1 พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ กำกับดูแล สำนักงานส่งเสริมการสอบสวน (สบส.) และศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชนและสตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (พดส.ตร.)

งานกฎหมาย 2 พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.อ.จรัมพร พล.ต.ท.อุดม พล.ต.ท.ก่อเกียรติ กำกับดูแล สำนักงานกฎหมายและคดี ยกเว้น สบส.) สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) และสถาบันนิติเวชวิทยา ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.พีระ พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ พล.ต.ท.นเรศ พล.ต.ท.อำนาจ และพล.ต.ท.วินัย

งานจเรตำรวจ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน จตช. พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันกุล รอง จตช. กำกับดูแลสำนักงานจเรตำรวจ

ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชานแดนภาคใต้ (ศชต.) พล.ต.อ.พีระ และพล.ต.ท.อำนาจ กำกับดูแล ศชต.และศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.)สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ (นรป.) พล.ต.อ.ไตรรัตน์ อมาตยกุล หน.นรป.(สบ10) และพล.ต.ท.เจษฎา อินทรสถิตย์ รอง หน.นรป.(สบ 9)

กำลังโหลดความคิดเห็น