คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านมินิบิ๊กซี สาขาโชคชัย 4 กวาดเงินสดไป 4 หมื่นบาท ก่อนซิ่ง จยย.หลบหนี ตร.เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 03.45 น. พ.ต.ท.ประมวน แมลงทับ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.โชคชัย ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์ภายในร้านมินิบิ๊กซี สาขาโชคชัย 4 เลขที่ 695 ใกล้ปากซอยโชคชัย 4/31 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศาสตร์ศักดิ์ ชัยประเสริฐ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.นเรนทร์ เครื่องสนุก สว.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น กว้าง 3 คูหา บริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านสะดวกซื้อ ปิดประตูร้าน และปิดแสงไฟภายในตัวร้าน มีเพียงแสงสว่างจากทางนอกร้าน พบ น.ส.เอม (นามสมมติ) อายุประมาณ 31 ปี พนักงานขาย ยืนอยู่ด้วยอาการตื่นตระหนก
จากการสอบถาม น.ส.เอมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนร่วมงานอีกรายกำลังยืนขายของอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ด้านหน้าร้าน จู่ๆ มีชายรูปร่างสูง ผอม สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ใส่เสื้อยืดคอกลม นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวขับขี่จักรยานยนต์มาจอดบริเวณด้านหน้าร้าน จากนั้นได้ปรี่เข้ามาภายในร้านพร้อมชักวัตถุคล้ายอาวุธปืนออโตเมติกสีดำมาข่มขู่บังคับให้นำเงินออกมาให้ ด้วยความหวาดกลัวตนและเพื่อนจึงหยิบเงินในเคาน์เตอร์ประมาณ 4 หมื่นบาทให้ไป จากนั้นคนร้ายได้หอบเงินวิ่งออกไปจากร้านแล้วขับรถที่จอดไว้ด้านหน้า มุ่งหน้าถนนเสนานิคม 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.ท.ศาสตร์ศักดิ์กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุสามารถจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องทำการสอบปากคำพยานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานมาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดยังไม่สามารถเปิดเผยได้อาจทำให้เสียรูปคดี
ต่อมา พ.ต.ท.นเรนทร์ เครื่องสนุก สว.สส.สน.โชคชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณร้านบิ๊กซี มินิ รวมถึงเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนีแล้ว ส่วนใหญ่เป็นกล้องของ กทม. เเละจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ากล้องที่น่าจะสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้นั้นน่าจะมีประมาณ 7-8 ตัว แต่เนื่องจากวันที่ 13 พฤษภาคมเป็นวันหยุดราชการจึงไม่สามารถประสานหน่วยงานราชการได้ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 14พฤษภาคมนี้ช่วงเช้าตนจะรีบประสานเพื่อขอภาพกล้องวงจรปิดอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าน่าจะได้ภาพวงจรปิดในช่วงบ่ายวันเดียวกัน และจะแกะภาพคนร้ายเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับประวัติเดิมที่ทางสายสืบมีอยู่เพื่อพิสูจน์ว่าคนร้ายดังกล่าวเป็นคนในพื้นที่ หรือเคยเหตุในพื้นที่หรือละแวกใกล้เคียงมาก่อนหรือไม่
นอกจากนี้ยังได้มีการสอบปากคำเเล้วทั้งหมด 4 ปาก คือ พนักงานบิ๊กซี มินิ จำนวน 3 ราย และผู้จัดการสาขาอีก 1 ราย แต่ยังไม่ได้ข้อมูลมากนัก ทราบเพียงว่าคนร้ายเป็นชาย ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ เสื้อคลุมเเขนยาว รองเท้าผ้าใบ ใส่ถุงมือ ก่อเหตุเพียงคนเดียวก่อนจะขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป อย่างไรก็ตามทางฝ่ายสืบสวนจะลงพื้นที่เพื่อหาพยานแวดล้อม หรือผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป
