ตำรวจนครบาลจำลองเหตุการณ์ยิง “ไม้หนึ่ง ก.กุนที” กวีเสื้อแดง หน้าลานจอดรถครกไม้ไทยลาว ซ.ลาดปลาเค้า 24 บ่งชี้คนร้ายมี 2 คน ใช้ปืน 11 มม.โมเดลที่นิยมในหมู่นักแม่นปืนสังหาร แต่อาจจะไม่ใช่มืออาชีพ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ 26 (เม.ย.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.นเรนทร์ เครื่องสนุก สว.สส.สน.โชคชัย พร้อม พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ยาคุ้มภัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน เเละวิถีกระสุนปืน กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เเละเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมจำลองเหตุการณ์ที่นายกมล ดวงผาสุก หรือไม้หนึ่ง ก.กุนทิ ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณลานจอดรถ ร้านอาหารครกไม้ไทยลาว ซอยลาดปลาเค้า 24 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม.
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีเเมคซ์ สีดำ ทะเบียน 2 กค 9611 กทม. ของนายกมลมาจอดในจุดที่นายกมล นำมาจอดไว้ในวันเกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ พฐ.นำเหล็กมาสอดลงในรูกระสุนตรงกระจกหน้า พร้อมใช้เลเซอร์ส่องเพื่อวัดระดับการยิง เเละเทียบเคียงทิศทางของวิถีกระสุน โดยคาดว่าคนร้ายน่าจะสูงประมาณ 170-180 ซม. ซึ่งคนร้ายทำการยิงทั้งหมด 5 นัด พบว่า หากไล่รอยกระสุนตั้งเเต่รอยบน เรียงระดับลงมาถึงรอยล่างสุดนั้น จะเห็นได้ชัดว่ามีการยิงเกาะกลุ่มกันทั้ง 4 รอย เเละจากการตรวจสอบพบว่า รอยบนสุดคือกระสุนนัดที่ 2 ซึ่งเป็นนัดที่ตัดขั้วหัวใจ เเละเป็นเหตุให้นายกมล เสียชีวิต ส่วนรอยกระสุนรอยที่ 2 นั้นคือ กระสุนนัดที่ 3 ซึ่งยิงทะลุเบาะด้านหลัง ขณะที่รอยที่ 3 คือ กระสุนนัดเเรก ซึ่งคนร้ายยิงถูกพวงมาลัย เเละรอยสุดท้าย รอยที่ 4 นั้นคือ กระสุนนัดที่ 4 ซึ่งยิงถูกคานหลังคา บริเวณกระจกหลัง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้จำลองสถานการณ์ขณะคนร้ายกำลังจะหลบหนี โดยคนร้ายกระโดดขึ้นรถจยย.ซึ่งมีคนขี่มารอรับ เเละอาจจะเป็นจังหวะเดียวกับที่นายกมล เปิดประตู คนร้ายจึงตัดสินใจเอี้ยวตัวหันไปยิงอีก 1 นัด ทำให้ นัดที่ 5 นั้นเกิดเป็นรอยกระสุนตรงประตูฝั่งคนขับ ก่อนจะรีบขี่ จยย.หนีไปปากทางลาดปลาเค้า 24 เเล้วเลี้ยวขวาหลบหนีไป
พ.ต.อ.ธนวัตร กล่าวว่า จากการเดินทางมาจำลองเหตุการณ์ในวันนี้ทำให้ได้ข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมมาก โดยสามารถระบุได้ว่า คนร้ายมี 2 คน ในส่วนของมือยิงนั้นน่าจะสูงประมาณ 170-180 ซม. โดยคนร้ายอาจจะถนัดมือขวา หรือมือซ้ายก็ได้ เเละปืนที่ใช้คือขนาด 11 มม. รุ่นโมเดล 1911 ซึ่งเป็นรุ่นที่นิยมกันในหมู่นักเเม่นปืน พบว่ามีการยิงในระยะกระชั้นชิด โดยจากการสังเกตลักษณะการยิงเเบบเกาะกลุ่มนั้นพบว่า คนร้ายอาจจะไม่ใช่มืออาชีพ เเต่ถือว่าเป็นผู้ชำนาญการ หรือผู้มีทักษะในการยิงระดับที่มีฝีมีพอสมควร เนื่องจากหากเป็นมืออาชีพจริง ควรจะต้องยิงโดนตัวผู้ตายตั้งเเต่นัดเเรก
พ.ต.อ.ธนวัตร กล่าวต่อว่า กรณีนี้พบว่านัดเเรกที่ยิงนั้นกลับถูกพวงมาลัยเเทนที่จะถูกตัวผู้ตาย คนร้ายจึงต้องยิงนัดที่ 2, 3 เเละ 4 อย่างต่อเนื่อง เพื่อซ้ำให้เเน่ใจว่ายิงโดนนายไม้หนึ่ง ก่อนจะยิงนัดตีจาก คือนัดที่ 5 ซึ่งโดนประตูฝั่งคนขับ เเละหลบหนีไปไปทางหน้าซอยลาดปลาเค้า 24 ก่อนจะเลี้ยวขวาออกไปยังถนนเกษตร-นวมินทร์ ข้อเสียเปรียบของผู้ตายในครั้งนี้ คือการที่ผู้ตายมีลักษณะการขับรถที่เป็นคนนั่งชิดกับพวงมาลัย ทำให้ขณะที่เกิดเหตุนั้นไม่สามารถหลบได้ กลายเป็นเป้านิ่งให้แก่คนร้าย ที่เมื่อพลาดกระสุนนัดเเรกเเล้ว จึงกระหน่ำยิงอย่างต่อเนื่องทันที ส่วนการไล่ตามกล้องวงจรปิดนั้นขณะนี้ก็คืบหน้าไปมาก โดยสามารถเเกะรอยเข้าใกล้คนร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยข้อมูลที่พบคือ คนร้ายขี่ จยย.ฮอนด้า รุ่นโซนิค ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งตนจะนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้เพิ่มเติมจากวันนี้นำไปเทียบเคียงกับภาพจากกล้องวงจรปิด เเละทาง บก.สส.บช.น.จะประสานสืบหาเบาะเเสจากชมรมคนเล่นปืนขนาด 11 มม. รุ่นโมเดล 1911 เพื่อเเกะรอยคนร้ายต่อไป