xs
xsm
sm
md
lg

ปปง.แฉพบบัญชีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดกว่า 300 บัญชี

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง.
เลขาฯ ปปง.แถลงเตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผยบัญชีต้องสงสัยในคดีฉ้อโกงทางโทรศัพท์ 306 บัญชี แฉพฤติกรรมลวงเหยื่อไปทำธุรกรรมการเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคารแทนผ่านทางตู้เอทีเอ็ม



วันนี้ (8 พ.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. แถลงข่าวแจ้งเตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า เมื่อวันที่ 4-30 เม.ย.ที่ผ่านมา ปปง.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวน 77 ราย ผ่านศูนย์รับเรื่องราว ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส สายด่วน ปปง.1710 ว่าถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารต่างๆ สูญเงินไปประมาณ 33 ล้านบาท ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการพัฒนารูปแบบการหลอกลวงหลากหลายแตกต่างกันมาขึ้น

แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือ แอบอ้างว่าเป็นเลขาฯ ปปง. หรือเจ้าหน้าที่ ปปง. โดยโทร.ไปหาเหยื่อแจ้งว่าค้างชำระหนี้บัตรเครดิตกำลังถูกตรวจสอบบัญชี และอายัดบัญชีด้วย โดยอ้างว่าบัญชีเหยื่อนั้นมีการโอนเงินเข้าออกผิดปกติอาจเข้าข่ายการฟอกเงิน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ไปเปิดบัญชีไว้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตามตู้เอทีเอมได้มีมาตรการป้องกันการถูกหลอกโดยจะทำสติ๊กเกอร์เตือนประชาชนที่จะทำธุรกรมมทางการเงินต่างๆ หรือมีการประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ปรับเปลี่ยนพฤติการณ์ในการหลวงลวงโดยไม่ได้ให้เหยื่อทำธุรกรรมผ่านตู้เอทีเอ็มแล้ว แต่ให้เหยื่อไปทำธุรกรรมการเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคารแทน อย่างไรก็ตาม ตนฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อ รวมทั้งกลุ่มคนที่มีอาชีพรับจ้างเปิดบัญชีให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อแลกกับเงินไม่กี่พันบาทนั้น หาก ปปง.ตรวจสอบพบเจ้าของบัญชีที่เปิดบัญชีให้กับมิจฉาชีพจะดำเนินฐานฉ้อโกงประชาชน และคดีอาญาฐานฟอกเงินโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000บาท หรือทั้งจำและปรับ

พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวต่อว่า ในส่วนของธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ในประเทศไทยนั้น ควรให้ความสำคัญและปฏิบัติตามกฏหมายการปราบปรามการฟอกเงินควรตรวจสอบประวัติลูกค้าที่มาเปิดบัญชีธนาคาร ตรวจสอบประวัติการเงิน ว่าเงินเข้าและออกบัญชีปกติไหม เช่นมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเข้าจำนวนมาก และเงินออกจากบัญชีอย่างรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายใน 1 วัน หากพบเห็นบัญชีลูกค้าต้องสงสัยให้ขึ้นบัญชีดำและแจ้งมายังปปง.แต่ถ้าธนาคารไม่ปฏิบัติตามกฏหมายอาจมีความผิด โทษปรับ 500,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 5,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติถูกต้อง นอกจากนี้ ปปง.ยังได้รวบรวมสถิติพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารที่น่าเชื่อว่าอาจนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน ปปง. แบ่งเป็น คดีฉ้อโกงทางโทรศัพท์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 306 บัญชี คดียาเสพติด 20 บัญชี คดีฉ้อโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม 106 บัญชี คดีฉ้อโกงทางอินเตอร์เน็ท 44 บัญชี รวม476

นอกจากนี้ เลขาธิการ ปปง.กล่าวถึงการใช้เงินสกุลเหมือนจริงว่า ตอนนี้สำนักงาน ปปง.กำลังจับตามกลุ่มที่ใช้สกุลเงินเหมือนจริงที่เรียกว่า Bitcoin หรือชื่ออื่นๆ เช่น Litecoin, Peercoin, Namecoin ที่ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านระบบออนไลน์และอิเล็กทรอนิกส์ โดยสกุลเงิน Bitcoin นั้นไม่ใช่เงินที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย และไม่มีมูลค่าในตัวเอง ลูกค้าจึงรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงินดังกล่าว ซึ่งสำนักงาน ปปง.จะจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า Bitcoin จะเป็นช่องทางที่อาชญากรจะใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงินหรือสนับสนุนเงินแก่ผู้ก่อการร้ายด้วยหรือไม่

กำลังโหลดความคิดเห็น