รองโฆษก ตร.เผย ผบ.ตร.กำชับดูแลบ้านพักบุคคลสำคัญหลังเมื่อคืนเกิดเหตุระเบิดป่วนหลายสถานที่และบ้านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) แถลงว่า เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 จำนวน 2 ลูกเข้าใส่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยลูกแรกตกบริเวณสวนหย่อมลานจอดรถทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นเหตุรถแท็กซี่ได้รับความเสียหาย 1 คัน ขณะที่ลูกที่ 2 ยิงเข้ามาที่ห้องพักแพทย์ชั้น 9 เป็นเหตุให้กระจกแตกเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบยังไม่ทราบทิศทางการยองว่ามาจากจุดใด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้ง 7 ตัวที่อยู่โดยรอบ
ส่วนเหตุที่ 2 เมื่อเวลา 21.30 น. ตำรวจ สน.พหลโยธินได้รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 เข้าภายในพื้นที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ โดยลูกแรกถูกยิงเข้าไปที่ชั้น 8 ทำให้กระจกด้านข้างตัวอาคารแตกเสียหาย ขณะที่ลูกที่ 2 ตกห่างจากจุดแรก 60 เมตร ระหว่างชั้นที่ 9 และ 10 ของอีกอาคาร เหตุดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อีโอดีเชื่อว่าทิศทางการยิงน่าจะมาจากบริเวณถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้าอาคาร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ขณะที่กล้องวงจรปิดของทางธนาคารไม่สามารถจับภาพได้ เนื่องจากกล้องทั้งหมดหันหน้าเข้าสู่ตัวอาคารเพียงด้านเดียว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดอื่นเพื่อนำมาประกอบกับรายงานของเจ้าที่อีโอดีเพื่อหาจุดยิงที่แน่ชัด เพื่อนำไปสู่การสืบสวนหาตัวคนร้ายต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 01.10 น.ได้มีเหตุคนร้ายปาระเบิดชนิดเอ็ม 67 ใส่บ้านพักนายสุพจน์ ไข่มุกต์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุให้หลังคาโรงรถได้รับความเสียหาย กระจกรถยนต์แตก พบกระเดื่องระเบิดชนิดเอ็ม 67 ในที่เกิดเหตุ ส่วนจุดที่ปาระเบิดน่าจะมาจากทางหลังบ้านซึ่งเป็นซอยตันอยู่ติดคลองและเป็นที่มืด โดยกล้องวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัย สูงประมาณ 170 ซม. สวมหมวกแก๊ป ทั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการมาดูลาดเลาเอาไว้ก่อนแล้ว และรู้จักเส้นทางเข้าออก รวมทางพื้นที่โดยรอบบ้านนายสุพจน์เป็นอย่างดี สำหรับบ้านพักของนายสุพจน์ รวมทั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคนจะมีตำรวจ 1 นาย ประจำการอยู่บริเวณหน้าบ้านเพื่อดูแลความปลอดภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร
พล.ต.ต.อนุชากล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เร่งรัดสืบสวนติดตามตัวคนร้าย นอกจากนี้ยังสั่งการให้ บช.น., บช.ภ.1 และบช.ภ.7 ซึ่งมีบ้านพักของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ตั้งอยู่ เพิ่มความเข้มในการตั้งด่านความมั่นคง รวมทั้งการแสดงกำลังเพื่อเป็นการป้องปราม โดยเน้นการดูแลทั้งบ้านพักตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการ ป.ป.ช. รวมทั้งบุคคลสำคัญอื่นๆ
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ในส่วนสถานการณ์การชุมนุม ผบ.ตร.ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้่ให้ซักซ้อมการดำเนินการแผนปฏิบัติการที่ได้มีการวางไว้แล้ว ในส่วนของการตั้งด่านความมั่นคงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย อาวุธปืน 1 กระบอก กระสุนปืน 11 นัด อาวุธมีด 2 เล่ม
พล.ต.ต.อนุชากล่าวด้วยว่า ขณะนี้กลุ่ม กปปส.ได้มีการเคลื่อนขบวนจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุช ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทมายังสวนลุมพินี คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ทางกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนพระราม 4 และถนนเพชรบุรี ส่วนการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม กปปส.ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ทาง บก.จร.จะติดตามสถานการณ์ และเร่งประชาสัมพันธ์การใช้เส้นทางให้ประชาชนทราบเป็นระยะเพื่อลดปัญหาด้านการจราจร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีที่กลุ่ม กปปส.และกลุ่ม นปช.นัดชุมนุมใหญ่คู่ขนานกัน ตำรวจได้มีการประเมินสถานการณ์รวมทั้งมีมาตรการรับมืออย่างไร พล.ต.ต.อนุชากล่าวว่า คาดการณ์ว่าจะมีกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างสถานการณ์ ผบ.ตร.จึงกำชับการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญทั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และกรรมการ ป.ป.ช. บุคคลสำคัญอื่นๆ รวมทั้งสถานที่ราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นการตั้งด่าน กวดขันกวาดล้างจับกุมอาวุธ เพื่อตัดวงจรของอาวุธ ไม่ให้มาใช้ในการก่อเหตุหรือสร้างสถานการณ์
เมื่อถามว่าจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแสดงว่าการตั้งด่านของตำรวจไม่ได้ผล รองโฆษก ตร.กล่าวว่า การตั้งด่านของตำรวจก็ได้ผลพอสมควร ดูได้จากการจับกุมอาวุธ และสิ่งผิดกฎหมายได้อย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ส่วนที่มีการเล็ดลอดก็จะนำมาปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งสอดคล้องกับข้อเท็จจริง และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
