รวบแก๊งค้ายานรกพร้อมของกลางยาบ้า 3.8 แสนเม็ด เลขาฯ ป.ป.ส.เผยเป็น 1 ใน 11 เครือข่ายยาเสพติด อีกรายจับหนุ่มปากีสถานลักลอบขนเฮโรอีนคาห้างดังย่านลาดพร้าว
วันนี้ (1 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. และพล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. แถลงผลการจับกุม นายสิทธิพงษ์ ไวยพัฒน์ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ, นายณัฐกิตติ์ ทองดี อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ, นายชาคริต นิลกำแหง อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ, น.ส.ขวัญนภา อิฎฐผล อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายสุวิทย์ เหลืองอ่อน อายุ 60 ปี ชาวจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 384,000 เม็ด จักรยานยนต์ฮอนด้า สีแดง ทะเบียน อมษ-829 กทม. รถยนต์เก๋งนิสสัน ซันนี่ สีน้ำตาล ทะเบียน ภท-1615 กทม. รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน ฌธ-6121 กทม. รถกระบะนิสสัน สีเทา ทะเบียน บฉ-1307 สิงห์บุรี โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง และหนังสือสัญญาเช่าบ้านเลขที่ 679 หมู่บ้านไพโรจน์ ซอยบางนา-ตราด 27 แขวงและเขตบางนา กทม. โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยม ถนนบางนา-ตราด กม.4 แขวงและเขตบางนา กทม.
ผลการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า นายสิทธิพงษ์ ไวยพัฒน์ เคยต้องโทษคดียาเสพติดและพ้นโทษออกมา จากนั้นได้ร่วมกับพรรคพวกจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่บางนาและพื้นที่ปริมณฑล โดยจะใช้รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์เป็นพาหนะในการส่งยาเสพติดให้ลูกค้า สืบทราบเพิ่มเติมว่านายสิทธิพงษ์พักอยู่ที่ห้องเช่าอาคารซิตี้โฮม ซอยสุขุมวิท105 ต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามนายสิทธิพงษ์เดินทางไปพบนายณัฐกิตติ์ ทองดี และนายชาคริต นิลกำแหง ทราบภายหลังว่าเป็นผู่ร่วมงานของนายสิทธิพงษ์ และทราบว่านายสิทธิพงษ์ได้เช่าบ้านที่หมู่บ้านไพโรจน์ไว้ซุกซ่อนยาเสพติด ต่อมาวันที่ 29 เม.ย.ได้จับกุมนายสิทธิพงษ์และพรรคพวกรวม 5 คน พร้อมของกลางยาเสพติดที่จะนำไปส่งลูกค้าและยาเสพติดที่ซุกซ่อนภายในบ้านหลังดังกล่าว
อีกรายเจ้าหน้าที่ บก.ปส.4 จับกุมนายอาฟรีดี เรซาลัส อายุ 39 ปี สัญชาติปากีสถาน หลบหนีจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ กรณีเมื่อวันที่ 25 มี.ค.เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแก๊งขนเฮโรอีนจากประเทศไทยไปประเทศออสเตรเลีย โดยจะนำยาไปซุกซ่อนกับสินค้าแช่แข็ง ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เม.ย.จึงเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เนื่องจากผู้ต้องหาไปติดต่อขอต่อวีซ่าที่ศูนย์บริการแรงงานต่างด้าว ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว จึงขออนุมัติหมายจับของศาลอาญา ที่ 62/2557 ลงวันที่ 28 เม.ย. 2557 และแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติด (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า นอกจากเฝ้าระวังที่ชายแดนแล้วขณะนี้มียาเสพติดระบาดในพื้นที่ภาคกลางโดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี และ จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ จ.สมุทรปราการ ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเพราะมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง จากข้อมูลของ ป.ป.ส.พบว่ามีโครงข่ายที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดอยู่ทั้งหมด 11 โครงข่าย ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ครั้งนี้เป็นหนึ่งในนั้น ส่วนยาเสพติดล็อตนี้ประทับตรา 999 มาจากกลุ่มว้าใต้ มีเมทแอมเฟตามีนผสมอยู่ถึงร้อยละ 20 เมื่อเสพแล้วจะทำให้ติดได้ง่าย และการบำบัดรักษาผู้เสพต้องใช้เวลานานมากขึ้น
เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนมีผู้ต้องหา 2 ราย ทราบว่าผู้ต้องหามีห้องพักอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณซอยลาซาล และจะมีผู้มาติดต่อรับยาไปจำหน่ายที่ชุมชนสมุทรปราการ และที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หากคนในชุมชนเสพจะควบคุมไม่ได้ เนื่องจากว่าเมื่อก่อนบำบัดแค่ 10 วันหาย แต่ปัจจุบันบำบัดถึง 3 เดือนก็ยังไม่หายเพราะมีการผสมสารแอมเฟตามีนในปริมาณมากขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องลงพื้นที่เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ระบาดในชุมชน พร้อมขยายผลเรื่องบัญชี เรื่องการโอนเงินต่างๆ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้านใดบ้าง และตามจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางในครั้งต่อไป