xs
xsm
sm
md
lg

ปส.แถลงจับยาเสพติด 4 คดี ยึดยาบ้าล้านกว่าเม็ด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


เลขาธิการ ป.ป.ส.แถลงข่าว บช.ปส.จับกุมผู้ต้องหายาเสพติด 4 คดี พร้อมของกลางยาบ้าล้านกว่าเม็ด เผยผลการจับกุมช่วงเดือนเมษายน วิสามัญฯ คนร้ายไปแล้ว 9 รายที่ต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (28 เม.ย.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบ.ตร.(ปส.) พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ปส.3 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมรวมผู้ต้องหาจากขบวนการค้ายาเสพติดทั้งหมด 4 คดี

คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 4 คน คือ นายยิ่งศักดิ์ แสนหาญชัย อายุ 28 ปี ชาว จ.ตาก, นายโกวิท แซ่ม้า อายุ 25 ปี ชาว จ.ตาก, นายไววิทย์ หรือตัดยา อายุ 18 ปี ชาว จ.แม่ฮ่องสอน, นายขจร เลาหมู่ อายุ 27 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 200,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน พบ 2783 กรุงเทพมหานคร, จักรยานยนต์ยามาฮ่า สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน จนพ 581 เชียงใหม่, โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บริเวณแยกเมืองงาย ถนนเชียงใหม่-ฝาง (โชตนา) เขตหมู่ 4 ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มชนเผ่าลีซอจาก จ.เชียงใหม่ ว่าจ้างกลุ่มชนเผ่าม้ง จ.ตาก ขนยาเสพติดไปยัง กทม.โดยใช้พาหนะเป็นรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน พบ 2783 กรุงเทพมหานคร จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนวันที่ 24 เม.ย.พบรถคันดังกล่าวขับอยู่ในพื้นที่ ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยมีจักรยานยนต์ขับนำ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะไปรับยาเสพติดมาแล้วจึงได้ทำการสกัดกั้นจับกุมรถทั้งสองคัน จากการตรวจสอบพบว่ายาบ้าซุกซ่อนอยู่ในช่องลับใต้เบาะที่นั่งด้านหน้ารถเก๋งจำนวน 200,000 เม็ด โดยมีนายยิ่งศักดิ์เป็นผู้ขับ และมีนายโกวิทนั่งมาด้วย ส่วนจักรยานยนต์มีนายขจรเป็นผู้ขับขี่ และมีนายไววิทย์เป็นผู้ซ้อน ผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่าร่วมกันไปรับยาเสพติดมาก่อนหน้านี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 2 คน คือ นายธนวินท์ ย่างสวัสดิ์วงค์ อายุ 28 ปี ชาว จ.น่าน, นายท่อ แซ่ม้า อายุ 26 ปี ชาว จ.ตาก พร้อมของกลางยาบ้า 1,200,000 เม็ด, ยาไอซ์ 5 กิโลกรัม, รถกระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน กง 4633 น่าน จับกุมได้ในพื้นที่บ้านแม่ข้าวต้มท่าสุด หมู่ 10 ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลำเลียงยาจาก อ.เมือง จ.เชียงราย ไปส่งให้ลูกค้าในภาคกลางโดยจะใช้ รถกระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน กง 4633 เป็นพาหนะในการลำเลียง จนกระทั่งวันที่ 25 เม.ย.เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวขับรถผ่านมาในพื้นที่พื้นที่บ้านแม่ข้าวต้มท่าสุด หมู่ 10 ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว พบนายธนวินท์เป็นผู้ขับ และมีนายท่อนั่งมาด้วย จากการตรวจสอบพบของกลางซุกซ่อนอยู่ภายในห้องผู้โดยสารด้านหลัง ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมนายธนวัฒน์ แซ่ลี่ อายุ 27 ปี ชาว จ.ตาก พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 20 มัด รวมประมาณ 40,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ถล 7963 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จับกุมได้ที่ถนนสายพิษณุโลก-ตาก ต.หนองหญ้าปล้อง อ.บ้านด่านลายหอย จ.สุโขทัย เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลำเลียงยาเสพติดจสกพื้นที่ จ.พิษณุโลก เพื่อไปส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดย จะใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ถล 7963 กรุงเทพมหานคร ในการลำเลียง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณถนนสายพิษณุโลก-ตาก พื้นที่ อ.ด่านลานหอย จ.สุโขทัย ต่อมาได้พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยขับผ่านมาจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่คนขับได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนกระทั่งรถต้องสงสัยเกิดประสบอุบัติเหตุตกลงข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวพบนายธนวัฒน์เป็นผู้ขับขี่ จากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 20 มัด รวมประมาณ 40,000 เม็ด โดยนายธนวัฒน์ให้การรับสารภาพว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 1 คนนั่งมาด้วยแต่วิ่งหลบหนีไป ทราบเพียงชื่อเล่นว่านายอาเจ๊อะ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมนายยาซือ มูเซอะ อายุ 26 ปี ชาว จ.เชียงราย, นายจะที จะพือ อายุ 37 ปี ชาว จ.เชียงราย, นายจะกู จะสอ อายุ 33 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ (ถูกวิสามัญเสียชีวิต) พร้อมของกลางยาบ้า 99 มัด 9 ถุง รวมประมาณ 198,000 เม็ด เงินสดล่อซื้อจำนวน 9,000,000 บาท รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน กพ 1857 เชียงราย 1 คัน, จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน จงษ 675 เชียงใหม่ 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง, อาวุธปืนแบบรีวอลเวอร์ขนาด .38 ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน 1 กระบอก, ลูกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 4 นัด, ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 ปลอก โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 72 ริมถนนบ้านหนองผึ้ง หมู่ 18 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.พุทธิชาติกล่าวว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายยาซือ มูเซอะ กับพวกซึ่งเป็นชาวเขาเผ่ามือเซอ ชาว จ.เชียงราย มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดเจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากนายยาซือ โดยตกลงซื้อขายกันในจำนวน 100 มัด ในราคามัดละ 90,000 บาท รวมเป็นเงิน 9,000,000 บาท และได้นัดหมายส่งมอบยา เสพติดกันที่บริเวณปากทางเข้าบ้านหนองผึ้ง หมู่ 18 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 25 เม.ย. 57 เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้อำพรางตัวไปพบกับนายยาซือกับพวก หลังตกลงซื้อขายเสร็จสิ้นนายยาซือได้ให้นายอะโหลพาเจ้าหน้าที่ไปยังจุดนัดหมายรับยา จนได้พบนายจะกูขับจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ทะเบียน จงษ 675 เชียงใหม่ มาจอดรออยู่บริเวณดังกล่าว และได้เตรียมยาเสพติดบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยมาเพื่อส่งมอบด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมจับตัวนายจะกูกับนายอะโหล แต่ทั้งสองไหวตัวหลบหนีไปซึ่งนายจะกูได้ขับจักรยานยนต์หลบหนีโดยมีนายอะโหลซ้อนท้ายไป เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามอย่างกระชั้นชิด ระหว่างทางนายอะโหลได้กระโดดลงจากรถหลบหนีเข้าป่าไปได้ ส่วนนายจะกูได้ขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีต่อไปจนกระทั่งรถที่นายจะกูขับขี่ได้เสียหลักล้มลงข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอจับกุม แต่นายจะกูได้ชักอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ยิงใส่เจ้าหน้าที่หลายนัด เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัว จนถูกนายจะกูเสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดยาบ้าของกลางไว้ ต่อมาได้จับกุมนายยาซือ และนายจะทีไว้ได้ขณะรอรับเงินค่ายาบ้า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย, ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือน เม.ย.ได้มีการวิสามัญฆาตกรรมผู้ค้าและผู้ลำเลียงยาเสพติดไปแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกวิสามัญฯ จำนวน 2 ราย และครั้งที่ 2 วิสามัญฯ จำนวน 7 ราย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการศึกษาเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดของกลุ่มผู้ค้า และได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตตามเส้นทางต่างๆ เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ค้าต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น