ผบ.ตร. ยอมรับงานด้านการข่าวยืนยันจะมีการระดมพลจากฝ่ายสนับสนุน กดดันศาล รธน. วินิจฉัยชี้สถานภาพ “ปู” หวั่นการเผชิญหน้า สั่ง ตร. นครบาล ตรึงกำลังเข้มบ้านพักบุคคลสำคัญ กำชับทบทวนแผนปฏิบัติรับมือป่วนสร้างสถานการณ์ถี่ยิบ
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในวันที่ 23 เม.ย. นี้ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย คดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า จากการข่าวพบมีการระดมมวลชนทั้งฝ่ายต่อต้านและสนับสนุน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเผชิญหน้ากันเกิดขึ้น พร้อมสั่งกำชับไปยังตำรวจนครบาลให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประเมินสถานการณ์เป็นระยะ พร้อมยอมรับเป็นห่วงเหตุแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการอ่านคำวินิจฉัย ซึ่งตำรวจจะเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังได้กำชับไปยังตำรวจนครบาล ให้เพิ่มความเข้มงวดบ้านพักของข้าราชการและบุคคลสำคัญให้มากขึ้น โดยเฉพาะฝ่ายที่สนับสนุนกลุ่ม กปปส. ที่อาจตกเป็นเป้า
ด้าน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่บ้านพี่สาวของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กลางดึกที่ผ่านมา ว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และชุดเก็บกู้และตรวจทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ได้เข้าตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นพบเป็นระเบิดชนิดเอ็ม 79 ลักษณะยิงห่างจากแนวกำแพงประมาณ 50 เมตร ในลักษณะทำแนวราบ ส่งผลทำให้ระเบิดไปตกบริเวณกำแพงรั้ว ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าคนร้ายต้องการแค่ข่มขู่ไม่ได้หวังเอาชีวิต ซึ่งได้กำชับให้ฝ่ายสืบสวน เร่งรวบรวมวัตถุพยาน ทั้งเศษหัวกระสุน เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่ามีส่วนความเชี่ยมโยงกับเหตุระเบิดที่เคยเกิดขึ้นในจุดอื่นๆ ก่อนหน้านี้หรือไม่ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบเพื่อติดตามจับกุมคนร้าย โดยขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า นอกจากนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งให้มีการทบทวนแผนปฏิบัติ พร้อมกำชับให้ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ทั้งบ้านพักบุคคลสำคัญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สถานที่ราชการ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ หลังการข่าวระบุจะมีการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น