ASTV ผู้จัดการ - เครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน พร้อมด้วย ม.ล.วันชัย นวรัตน์ และ ม.ล.ภูดิศ ศุขสวัสดิ์ จี้กองปราบฯ ดำเนินคดี “โกตี๋” หมิ่นเบื้องสูง และตรวจสอบ 5 ประเด็นความสงสัยเกี่ยวเนื่อง ด้านอดีต ส.ส.ปชป.เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ “โกตี๋” ด้วย
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (10 เม.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายบวร ยสินธร แกนนำเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน นายอุดร แสงอรุณ ตัวแทนเครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบัน ม.ล.วันชัย นวรัตน์ และ ม.ล.ภูดิศ ศุขสวัสดิ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.2 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง โดยนำแผ่นดีวีดีคลิปวิดีโอการให้สัมภาษณ์ของนายวุฒิพงศ์ ต่อสำนักข่าวไวซ์นิวส์ (Vice News) ในประเด็นที่พาดพิงสถาบันเบื้องสูง และเอกสารที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นายบวรกล่าวว่า คำพูดและการกระทำของนายวุฒิพงศ์ซึ่งให้สัมภาษณ์สำนักข่าวดังกล่าว ตนเชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นก่อนวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยมีเนื้อหาที่กล่าวให้ร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญาอย่างชัดเจน หลังจากได้พบเห็นแล้วตนพร้อมกับกลุ่มเครือข่ายต่างๆ จึงนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้ นัดหมายกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว พร้อมกันนั้นได้ออกแถลงการณ์เครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน ลงวันที่ 10 เมษายน 2557 เรื่องขอให้ดำเนินคดีต่อนายวุฒิพงศ์ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง
ทั้งนี้ สำหรับแถลงการณ์ฉบับนี้มีประเด็นที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ดังนี้ 1. ผู้สื่อข่าวไวซ์นิวส์ เป็นเครือข่ายของนิตยสารไวซ์ มีฐานอยู่ที่ประเทศแคนาดานั้น เกี่ยวข้องกับนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความชาวแคนาดา ที่มีพฤติการณ์พาดพิงสถาบันเบื้องสูงของประเทศไทยด้วยหรือไม่
2. มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มประกาศตัวแบ่งแยกอาณาจักรล้านนา เมื่อเร็วๆ นี้ หรือไม่ 3. คำพูดที่ว่า เบื้องหน้าพูดเรื่องประชาธิปไตย เบื้องหลังฝึกนักรบ มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือไม่ 4. มีความเกี่ยวข้องกับนายอดิศร เพียงเกษ แกนนำ นปช.ที่พูดอ้างถึงสถาบันเบื้องสูงของประเทศอังกฤษ ญี่ปุ่น และสวีเดน และ 5. นายวุฒิพงศ์ มีความเกี่ยวข้องกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.อย่างไร เนื่องจากมีความสนิทสนมเป็นพิเศษจากภาพที่เผยแพร่ทั่วไป เกรงเจ้าพนักงานจะไม่ดำเนินการด้วยความยุติธรรม
ขณะเดียวกัน นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท อายุ 22 ปี ทายาทของนายกิตติ ธนากิจอำนวย เจ้าของบริษัท โนเบิลดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง “โนเบิลเฮ้าส์” ซึ่งร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่ม กปปส. พร้อมด้วยนายเกตินิคม กฤษณะเศรณี หัวหน้าโครงการสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย และนายปัณณธร กุฎีรัตน์ แกนนำเครือข่ายนักศึกษาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) พร้อมมวลชน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายวุฒิพงศ์ในประเด็นเดียวกันนี้อีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า สำหรับการดำเนินการนั้น ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.1 และ 2 บก.ป.รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ในเบื้องต้น แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการแล้ว ในส่วนของ บก.ป.ก็จะพิจารณานำเรื่องไปรวบรวมเป็นคดีเดียวกันต่อไป
ต่อมาเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อายุ 64 ปี อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และนายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายและรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชัยพร นิตยภัตร์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยนำภาพถ่าย แผ่นดีวีดีบันทึกภาพและเสียงนายวุฒิพงศ์ ที่ให้สัมภาษณ์กับทาวสำนักข่าวไวซ์นิวส์ (Vice News) ในประเด็นที่พาดพิงสถาบันเบื้องสูง ภาพข่าวที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2557 คำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นายวิรัตน์กล่าวว่า จากถ้อยคำของนายวุฒิพงศ์ที่กล่าวพาดพิงถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพของประชาชนชาวไทย เป็นความผิดอย่างชัดเจนซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ผบ.ตร. ผบช.น.หรือแม้แต่ ผบก.ป.จะนิ่งเฉยไม่ได้ เพราะกระทบต่อความมั่นคงของชาติ หากดำเนินการล่าช้า สื่อมีสี รวมทั้งวิทยุชุมชนต่างๆ ก็จะนำไปเผยแพร่ ขยายผล ละเลงกันต่อไปเรื่อยๆ กรณีดังกล่าวไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นแนวคิดและการกระทำเชิงสัญลักษณ์ มีการใส่ร้ายทุกวิถีทาง และตนเชื่อว่านายวุฒิพงศ์ก็เป็นเพียงกลไกหนึ่งของขบวนการ ส่วนใครจะมีส่วนร่วมในการกระทำผิดด้วยนั้น คงต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนสอบสวนต่อไป
นายวิรัตน์กล่าวต่อว่า เรื่องนี้หากใครคิดจะปกป้องคงอยู่ไม่สุขแน่นอน และจริงแล้วตำรวจสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับได้เลยทันที ตนก็ยังแปลกใจที่ ศอ.รส.ระบุว่าจะออกหมายจับนายวุฒิพงศ์ ภายในวันที่ 11 เมษายนนี้ ทั้งที่ไม่ต้องมีการแปลความใดๆ แล้ว เป็นกรณีที่มีความชัดเจนว่ากระทำความผิดคดีอาญา ตนคิดว่าพยาหลักฐานที่นำมามอบให้พนักงานสอบสวนในครั้งนี้ น่าจะช่วยลดขั้นตอนการดำเนินการได้มาก และสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้เลยภายใน 24 ชั่วโมง