“มิสเตอร์สลัด” เป็นสลัดรูปแบบใหม่ที่ผู้คิดได้ทำออกมาในลักษณะแบบพอดีคำเพื่อเพิ่มความสะดวกในการรับประทาน เช่นเดียวกับเมนูอาหารอื่นๆ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในการรับประทานอาหารของคนเมือง
สำหรับไอเดียสลัดพอดีคำที่กล่าวถึงในครั้งนี้มีชื่อเป็นทางการว่า “มิสเตอร์สลัด” แนวคิดของ “นายภูดิศ บุญร่วม” ซึ่งได้ไอเดียของซูชิมาปรับใช้ให้การรับประทานสลัดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และมีสีสันมากขึ้น ช่วยกระตุ้นให้คนที่ไม่ชอบการรับประทานผักอาจจะต้องหันมามอง สลัดม้วนโรล ของ มิสเตอร์สลัด
นายภูดิศเล่าว่า จุดเด่นของมิสเตอร์สลัดของเราคือ เราจะทำออกมาไม่เหมือนใคร เพื่อหนีการแข่งขันที่ปัจจุบันมีคนทำสลัดออกมาขายเป็นจำนวนมาก โดยการผสมผสานการห่อสไตล์ญี่ปุ่นแบบซูชิ มาใช้กับการห่อสลัดม้วนโรลแบบพอดีคำ ซึ่งทำออกมาด้วยกันหลายรูปแบบเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า เช่น แครอทม้วนโรล นำแครอทมาม้วนห่อกับผักสลัด ซึ่งใช้ผักไฮโดรโปรนิก และเลือกเนื้อสัตว์ตามชอบ (หมูแฮม ไก่แฮม ปลาแซลมอน ปูอัด ฯลฯ) และภายในยังมีธัญพืชต่างๆ เช่น ถั่วแดง ลูกเดือย เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบแซนด์วิชที่ใช้ขนมปังโฮลวีตมาห่อ ใส่ผักไฮโดรฯ และเนื้อสัตว์ตามที่กล่าวมาข้างต้น ส่วนเมนูยอดนิยมเป็นการประยุกต์อาหารเวียดนาม โดยใช้ใบเมี่ยง (แป้งห่อแหนมเนืองอาหารเวียดนาม) มาห่อ ส่วนผสมข้างในเหมือนกับที่กล่าวมาข้างต้น ส่วนผักจะเลือกใช้ผักไฮโดรโปรนิกจากฟาร์มที่เราติดต่อรับซื้อประจำ เพราะการซื้อผักครั้งละมากๆ ทำให้เราสามารถซื้อในราคาที่ถูกลงได้ และมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย เพราะเป็นฟาร์มที่ปลูกผักปลอดสารพิษ และได้ผักสดมาขายทุกๆ วัน
ทั้งนี้ หัวใจของมิสเตอร์สลัดอีกอย่างหนึ่งที่คุณภูดิศภูมิใจนำเสนออย่างมาก คือ น้ำสลัด ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาน้ำสลัดออกมามากถึง 10 รสชาติ ทุกรสชาติจะไม่มีส่วนผสมของไข่เพื่อลดปริมาณคอเลสเตอรอล ได้แก่ โยเกิร์ตบลูเบอร์รี ซัมเมอร์เบอร์รี วาซาบิ สไปซี เสาวรส ซีอิ๊วญี่ปุ่น ฯลฯ
หลังจากได้รู้จักสลัดรูปแบบใหม่ของมิสเตอร์สลัดกันแล้ว ทางคุณภูดิศได้อธิบายถึงแนวทางการทำตลาดของมิสเตอร์สลัดว่า เริ่มต้นทำสลัดรูปแบบม้วนพอดีคำออกมาจำหน่ายได้ปีนี้ย่างเข้าปีที่ 2 เริ่มมาจากเมื่ออดีตทำซูชิขาย แต่มีคนขายจำนวนมาก และเราเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ ราคาแพงกว่า ทำให้ลูกค้าหันไปซื้อของถูกโดยไม่ได้มองที่คุณภาพ จุดเปลี่ยนทำให้เราต้องหันมองหาอย่างอื่นๆ มาขาย และลองทำสลัดม้วนโรลออกมาขาย แรกๆ ลูกค้าก็รู้สึกแปลก แต่พอได้กินส่วนใหญ่จะชื่นชอบ โดยมียอดขายตั้งแต่ 60 กล่องไปจนถึง 100 กล่องต่อวัน
“พอทำมาได้ระยะหนึ่งมีคนสนใจ เราก็เลยตัดสินใจเปิดขายแฟรนไชส์ ปัจจุบัน มีสาขาแฟรนไชส์อยู่ทั่วประเทศจำนวน 11 สาขา ราคาแฟรนไชส์เก็บครั้งแรก 5,000 บาท ถึง 7,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของร้านและอุปกรณ์ ซึ่งเจ้าของแฟรนไชส์จะเก็บค่าลิขสิทธิ์ครั้งเดียว โดยจะได้ป้าย พร้อมอุปกรณ์การขายครบชุด โดยลูกค้าแฟรนไชส์จะต้องซื้อน้ำสลัดจากเจ้าของแฟรนไชส์เท่านั้น ส่วนผัก และวัตถุดิบอื่นๆ สามารถหาซื้อเองได้ ส่วนราคาขายจัดเป็นชุด มี 6 อัน ขายกล่องละ 40 บาท กำไรต่อกล่องประมาณ 50%”
ที่ผ่านมา ทางร้านมิสเตอร์สลัดมุ่งเป้าไปที่สาวๆ พนักงานออฟฟิศที่ดูแลสุขภาพ ปัจจุบันได้กลุ่มสาวๆ พนักงานออฟฟิศ และกลุ่มเด็กๆ เพิ่มขึ้นมาก เพราะเด็กจะชอบตรงที่ม้วนโรลพอดีคำ และชื่นชอบน้ำสลัดรสโยเกิร์ตโดนใจเด็กๆ เป็นช่องทางหนึ่งที่พ่อ แม่จะช่วยกระตุ้นให้เด็กกินผักได้ และผักไฮโดรฯ เป็นผักที่กินง่าย ซึ่งปัจจุบันมิสเตอร์สลัดมีสาขาแฟรนไชส์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
โทร. 08-1916-3649
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *